กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย (เขากะลา)

วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ระบบ

มนุษย์ต่างดาว....กล่าวถึง....ภัยพิบัติ

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

เป็นชื่อกลุ่ม ที่มนุษย์ต่างดาวสื่อสารข้อมูลมาให้ใช้ชื่อนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2547 เป็นต้นมา

เรียกว่า.....เป็นวันแรกของการเข้าสู่ระบบทำงาน.....ร่วมกับมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา
เพราะก่อนหน้านั้น อยู่ในขั้นตอนการเรียน การคัดเลือกบุคคล การฝึก
ซึ่งมีปฏิบัติธรรม การฝึกจิตเพื่อปล่อยวาง และการฝึกรับข้อมูลจากมนุษย์ต่างดาว ควบคู่กันไป
โดยการฝึกแบบเป็นกลุ่ม....เริ่มต้นที่เขากะลา
และการฝึกเดี่ยว....ของบุคคลมากมายที่ระบบวางไว้ กระจายอยู่ทั่วไปตามจุดต่าง ๆ ทั่วโลก


ชื่อ กลุ่มเขากะลา เริ่มมีการใช้มา ตั้งแต่ปี 2541 ซึ่งเป็นที่ตั้งของ กองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว บนเขากะลา

มาเปลี่ยนใช้ชื่อเป็น กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2547

ประเดิมเริ่มแรก ของชื่อกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

ปีแรกที่เปลี่ยนชื่อ คือเข้าสู่ระบบการเตือนภัย ก็เกิดสึนามิครั้งใหญ่ขึ้นมา

วันที่ 26 ธันวาคม 2547 เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ให้เห็น ในเอเซียนี่เอง
ทั้งในประเทศไทย และอีกหลายประเทศ มีการสูญเสียกันมากมาย

ซึ่ง ระบบ ให้กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ไปออกรายการ V.I.P. เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2547 ตามที่ได้ติดต่อมา พร้อมกับ ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เรื่องการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา และการมาโลกมนุษย์เพื่อเตือนภัยพิบัติ และให้ความช่วยเหลือเรื่องภัยพิบัติบนโลกใบนี้

ตอนสัมภาษณ์นั้น ใครจะรู้บ้างว่า ภัยพิบัติทางน้ำครั้งใหญ่กำลังใกล้จะมาถึง

สัมภาษณ์และบันทึกรายการ 16 ธันวาคม 2547
สึนามิถล่มชายฝั่งอันดามัน 26 ธันาคม 2547

ห่างกันเพียง 10 วัน

การกล่าวถึงภัยพิบัตในวันนั้น จึงเป็นส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า
การรู้ล่วงหน้า ...... มิใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้


เพียง แต่ การที่จะเข้าไปแทรกแซงในแรงกรรม ตามกาลเวลาที่ต้องเกิดขึ้น ณ ที่นั้น ๆ มันทำไม่ได้ มันช่วยกันไม่ได้ ไปขัดขวางไม่ได้ เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎแห่งกรรม ที่ยิ่งใหญ่เหนือสิ่งอื่นใด

กลไกของธรรมชาติ ของไกของจักรวาล เป็นกลไกที่ยิ่งใหญ่ ต้องเป็นไปตามกรรม วิบากกรรมนั้น ๆ

ซึ่ง ตอนนี้ แรงกรรมทั้งหลาย ได้กระจาย ได้ส่งผลไปทั่วโลกแล้ว ภัยพิบัติได้ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นมากมาย กรรมทั้งหลาย จึงให้ผล จึงมุ่งไปในประเทศที่สร้างแรงกรรมเหล่านั้น


แม้จะช่วยไม่ได้ เพราะมนุษย์โลกส่วนใหญ่ต้องไปตามกรรมเหล่านั้น

แต่ ยังมีผู้ที่มีบารมี ผู้ที่สร้างกรรมดีไว้อีกมากมาย ที่ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องสูญสลายไปกับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น ยังมีบารมีมากพอที่จะอยู่ต้องอยู่ เพื่อดำรงรักษาเผ่าพันธ์ของมนุษยชาติไว้ และเริ่มเข้าสู่กลไกของธรรมชาติ ยกระดับจิตเพื่อการคืนสู่ธรรมชาติอีก ครั้ง

กฏของธรรมชาติ ก็ต้องดูแล รวมถึงเทพทั้งหลาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ก็ต้องดลใจให้บุคคลนั้น ๆ ระลึกรู้และ ตระหนักถึงเรื่องของภัยพิบัติ แล้วหันหน้าเข้าหาธรรมเป็นที่พึ่ง มาเรียนรู้กฏธรรมชาติ มาปฏิบัติตามบารมีเก่าที่สะสมมา เพื่อจะนำพากันเข้าสู่ยุคใหม่ เข้าสู่ยุคศิวิไล คือยุคทองอีกครั้งหนึ่ง

และ นับจากนั้นมา ภัยทางธรรมชาติเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรื่อยมา จนหลายคนเริ่มตระหนักว่า ธรรมชาติที่เคยสงบ เคยร่มเย็น จะไม่กลับมาให้เห็นอีกแล้ว มีแต่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น มากขึ้น

จนถึงปัจจุบัน ภัยทั้งหลายในธาตุทั้ง 4 กลายเป็นภัยพิบัติรายวันไปแล้ว

มนุษย์ ต่างดาว เคยกล่าวถึงเรื่องของภัยพิบัติในภาพรวมของโลกใบนี้ไว้หลายครั้ง เมื่อมีผู้ถาม ว่าต่อไปเหตุการณ์ต่าง ๆ จะเกิดขึ้นมากมาย ตั้งแต่ในตอนที่ยังไม่เคยมีเหตุการแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด น้ำท่วม หรือทอนาโด พายุถล่มมากมายอย่างในวันนี้

จะขอนำการกล่าวถึงภัยพิบัติบนโลกใบนี้ ของมนุษย์ต่างดาว ที่ได้เคยกล่าวไว้ ในปี 2541 บนเขากะลา

และ บอกถึง ที่มาของเหตุภัยพิบัติ ว่าเกิดจากอะไร แรงกรรมมีอานุภาพมากแค่ไหน มนุษย์จึงต้องเผชิญกับมหันตภัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นนี้.

ขอให้ท่านผู้อ่าน ใช้วิจารณญาณในการอ่าน ในการรับรู้ข้อมูล แล้วไตร่ตรองในข้อมูลที่ได้รับมานี้ ควรเชื่อหรือไม่ อย่างใด

อย่าได้ตื่นตระหนกใด ๆ ควรทำความเข้าใจ ว่าเหตุใด ...ภัยพิบัติจึงต้องเกิดขึ้นกับโลกใบนี้

แล้วถามตัวเองว่า ถึงเวลาหรือยัง ทีเราจะหันมาปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังสักที.


กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) Team.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น