กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย (เขากะลา)

วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

17 tuned / I Love Music (***Odabasz***) 2011

ปรากฏการณ์สัมผัสห้วงอวกาศ / มาโคโลนี

Re: ปรากฏการณ์สัมผัสห้วงอวกาศ
เมื่อ: ตุลาคม 25, 2011, 01:51:57 pm

ต้อง เล่าที่มาก่อน...เทพราหูได้มาเตือนเรื่องน้ำ เตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า คนเฉื่อยอย่างข้าพเจ้าก็ทำไม่รู้ไม่ชี้เพราะไม่อยากจะสนใจเรื่องเคราะห์ซ้ำ กรรมซัดของคนอื่น เนื่องจากตนเองไม่ได้เดือดร้อนด้วย แต่ท่านเทพราหูก็มักจะสร้างเหตุให้ข้าพเจ้าต้องไปสอบถามท่านผู้มีญาณถึงการ แอบติดตาม จ้องมอง จากบางสิ่งบางอย่างที่มองไม่เห็นแต่รู้สึกได้ด้วยจิต เมื่อทราบว่าเป็นท่านเทพราหู ข้าพเจ้าก็ชักตงิด ๆ เริ่มรำคาญว่างั้นเถอะ ก็เลยถาม-ตอบผ่านท่านผู้มีญาณไปว่า ท่านมาตามข้าพเจ้าอยู่ทำไม ท่านตอบว่ามาเตือนเรื่องน้ำ ข้าพเจ้าก็...ฮึ่ม น้ำอะไรอีกล่ะ ก็มันกำลังท่วมอยู่นี่ไง ที่ภาคกลางน่ะ ท่านก็ว่าไม่ใช่ ข้าพเจ้าก็ 0.0 อ้าว ยังมีอีกเหรอ แล้วมันจะท่วมที่ไหนอีก ท่านก็บอกว่าที่เชียงใหม่ เอ...ข้าพเจ้าก็เริ่มลังเล นึกในใจว่าก็มันท่วมไปแล้วนี่นา รอบที่แล้วที่ท่านมาเตือนทราบก่อนน้ำจะท่วมเชียงใหม่เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 54 แต่ไม่ได้ออกข้อความเตือน เพราะไม่แน่ใจและไม่อยากสนใจ และทราบว่าถ้าน้ำจะท่วม มันจะท่วมในเมือง แต่บ้านตัวเองไม่ท่วมแน่ มั่นใจสุด ๆ ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ แต่รอบใหม่นี่มันจะท่วมยังไงหว่า ในเมื่อ เนสาด กับนาลแกก็ผ่านไปแล้ว ฝนทางภาคเหนือก็หยุดแล้ว พอถามท่านๆ ก็ตอบว่าน้ำมาจากน้ำโขง จึงเป็นที่มาของการตั้งกระทู้นี้เพื่อเตือนภัย รายละเอียดต่าง ๆ มีกระจัดกระจายอยู่ในกระทู้นี้แหละค่ะ

ในที่นี้จะกล่าวถึงคลื่น ยักษ์ที่จะเข้าถล่มปีหน้า 2555 คลื่นที่เข้ามามีหลายขนาด ความสูงของคลื่นอยู่ระหว่าง 26 – 65 เมตร และบางลูกอาจจะสูงเกือบ 100 เมตร เอาเฉพาะกรุงเทพฯ ก็แล้วกันนะ ภาคอื่น ๆ เอาไว้พูดทีหลัง เรื่องคลื่นยักษ์นี่จำไม่ค่อยได้ว่าถามท่านเทพราหูหรือท่านผู้ให้อภัยแล้ว ท่านผู้อ่านก็รับเอาแต่เนื้อ ๆ ไปก็แล้วกันนะคะ คลื่นยักษ์ที่จะเข้าถล่มกรุงเทพฯ มาจากทะเล ข้าพเจ้าถามแล้วถามอีกว่า น้ำมาจากทะเลหรือ? หรือว่ามาจากน้ำจืด? เขื่อนแตกหรือไง? ท่านก็ยืนยันว่ามาจากทะเล อ้าว 0.0 ถ้างั้นก็สึนามิน่ะสิ ท่านก็ตอบว่าใช่ ข้าพเจ้าถามทันทีว่าท่านผู้มีญาณรอดหรือเปล่า ท่านเห็นตัวเองลอยคออยู่ในน้ำ คือลอยอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ว่ายไม่ได้เกาะอะไรทั้งนั้น ข้าพเจ้าก็ อืม...(วิเคราะห์ด้วยสติปัญญาไปด้วย) ข้าพเจ้าถามถึงหลานชาย ลูกชายของท่านผู้มีญาณ ก็ทราบว่าได้รับการช่วยเหลือไปก่อนหน้าท่านผู้มีญาณแล้ว ข้าพเจ้าชักงง ใคร? อะไร? มาช่วยยังไง?

ท่านผู้มีญาณบอกว่าเห็นเรือ ข้าพเจ้าก็ถามว่าเรืออะไร ท่านผู้มีญาณก็ตอบว่าเรือไม้ ข้าพเจ้าก็...อืม ชักไม่ทันใจ การตั้งคำถามกับชาวโลกทิพย์ ถามคำเขาก็ตอบคำ ถามแค่ไหนเขาตอบแค่นั้น ไม่มีการอธิบายเพิ่มเติม เราต้องใช้สติปัญญาถามปัญหาเอาเอง เพราะเหตุนี้ท่านที่มานำเสนอการสื่อสารเกี่ยวกับข้อความต่าง ๆ แม้ว่าจะได้รับทราบมาเป็นเรื่องเดียวกัน แต่แตกประเด็นคำตอบไปหลากหลาย เพราะแต่ละคนเจาะถามปัญหาไม่เหมือนกัน แล้วแต่สติปัญญาของผู้ถามว่าจะสามารถถามได้ลึกซึ้งขนาดไหน บางทีคนอ่านก็สับสนกับข้อมูล ข้าพเจ้าจึงขออธิบายให้ทราบไว้ ณ ที่นี้

ข้าพเจ้า ถามว่าเรือไม้ที่ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร ท่านผู้มีญาณตอบว่าเป็นเรือไม้สีน้ำตาล เป็นไงล่ะท่านผู้อ่าน ถามคำก็ตอบคำ ข้าพเจ้าก็ถามอีก ลักษณะคล้ายเรือสำเภาหรือเปล่า ท่านผู้มีญาณตอบว่าเรือที่เห็นนั้นไม่มีใบ เป็นเรือไม้สีน้ำตาล หัวเรือและท้ายเรือมีอะไรแหลม ๆ ยกขึ้นไป ทำให้ข้าพเจ้าชักงงใหญ่ มันเรืออะไรหว่า ถามท่านผู้มีญาณไปว่าเรือโนอาหรือเปล่า(ถ้าเขียนโนอาผิดก็ขออภัย ท่านก็ตอบว่าไม่ใช่ การถาม-ตอบนี้ท่านผู้มีญาณจะอาราธนาถามพระพุทธเจ้าตลอด) ข้าพเจ้าถามว่าเป็นเรือมนุษย์ใช่หรือเปล่า ท่านก็ว่าไม่ใช่อีก ถามว่าเป็นเรือมนุษย์ต่างดาวหรือเปล่า ท่านก็ว่าไม่ใช่อีก เอาใหม่ ขอให้ท่านผู้มีญาณรวบรวมกำลังจิตอาราธนาพระใหม่ แล้วถามว่าเป็นเรือเทวดาใช่ไหม โป๊ะเช๊ะ เลยท่าน ท่านผู้มีญาณตอบว่าใช่ กว่าจะเจอคำตอบก็ทำเอาข้าพเจ้าเกือบจะจนคำถาม

ข้าพเจ้ายังถามย้ำอีก สองสามครั้งว่าเรือเทวดาแน่นะ ท่านผู้มีญาณก็ตอบว่าใช่ ข้าพเจ้าขอให้ท่านผู้มีญาณดูผู้ควบคุมเรือ ท่านก็เห็นเทวดาทรงเครื่องเต็มยศ ยืนอยู่ในเรือ ข้าพเจ้าถามว่าท่านเทวดาช่วยหลานชายของข้าพเจ้าไปก่อนแล้วหรือ ท่านผู้มีญาณจึงหาเขาไม่เจอในตอนแรก เทวดาตอบว่าใช่ ข้าพเจ้าถามเทวดาผ่านผู้มีญาณว่าแล้วท่านจะช่วยท่านผู้มีญาณด้วยไหม เทวดาก็ตอบว่าช่วย ข้าพเจ้าถามว่าแล้วพ่อ แม่ กับน้องสาวอีกคนล่ะ ท่านจะช่วยพวกเขาไหม (เพราะท่านผู้มีญาณเห็นพวกเขาลอยคออยู่ในน้ำเหมือนกัน) เทวดาก็ตอบว่าช่วย ข้าพเจ้าถามย้ำอีกว่าช่วยทุกคนไหม ท่านก็ตอบว่าทุกคน ข้าพเจ้าก็พลอยยินดีไปกับพวกเขาด้วย พอถามถึงตัวเอง กลับไม่รอดแฮะเพราะหมดอายุขัยเสียก่อน แต่ถ้าจะอยู่ต่อต้องมาตั้งสัจจะกันใหม่ แบบว่าถ้าจะอยู่ต้องมีงานทำ แต่ต้องเป็นงานที่เป็นประโยชน์กับผู้อื่นและศาสนาเท่านั้น ต้องไม่ใช่งานที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนตน อันนี้ขอคิดดูก่อนนะ แต่ข้าพเจ้าไม่ได้ถามชื่อเทวดา เพราะไม่อยากรู้ ถึงรู้ชื่อข้าพเจ้าก็คงจะไม่รู้จักอีก ก็เลยไม่ถาม

ข้าพเจ้าถามต่อไป ว่าแล้วท่านจะช่วยคนอื่น ๆ ด้วยไหม ท่านก็ตอบว่าช่วย ข้าพเจ้าถามว่าถ้าช่วยพวกเขาไปแล้วท่านจะนำพวกเขาไปพักไว้ที่ไหน (แหงล่ะ มันคงไม่ใช่บนสวรรค์เป็นแน่) ท่านตอบสถานที่ให้ทราบ แต่ข้าพเจ้าจะไม่ขอเฉลยในที่นี้แต่หลายท่านอาจพอทราบมาบ้างแล้ว ขอให้สถานที่แห่งนั้นเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่จะถูกนำไปพักไว้ที่นั่นสมควรจะเป็นผู้ที่รอดเท่านั้น ท่านผู้อ่านไม่ต้องกังวลไปว่าท่านจะเป็นผู้รอดหรือไม่ เพราะนี่คือกระบวนการคัดสรรคนดี คนดีจะลอยคออยู่ได้โดยที่ว่ายน้ำไม่เป็น และไม่จำเป็นต้องออกแรงว่ายให้เหนื่อยเปล่า ส่วนคนชั่ว(ไม่รักษาศีล) จะจมทันทีแม้ว่าท่านจะว่ายน้ำเป็น และแม้ว่าท่านจะออกแรงว่ายสักเท่าไรก็ไม่เป็นผล น้ำจะดูดท่านลงข้างล่าง ก็เลยทำให้เข้าใจในทันที และขอสรุปให้ทราบดังนี้ค่ะ

1. สวรรค์จะช่วยคนดีให้รอดพ้นอันตราย แต่มีเงื่อนไขว่าท่านต้องเป็นคนที่หนึ่งไม่หมดอายุขัย สองเป็นคนดี คือรักษาศีลห้าเป็นเบื้องต้น สำหรับคนที่ชอบให้ทาน และภาวนา แต่ไม่รักษาศีล ก็ต้องวัดดวงกันอีกที เพราะเมื่อท่านปราศจาก “สัจจะ” ในการยกเว้นการเบียดเบียนทั้งห้าข้อ ท่านอาจจะไม่รอดแต่ที่ไปของท่านก็ไม่เลว อย่างน้อยก็ขึ้นสวรรค์หรือพรหม

2. สิ่งที่ท่านจะนำติดตัวไปได้มีเพียงย่ามใบเดียวเท่านั้น ควรจะเป็นย่ามที่มีซิป เป้หรือกระเป๋าถ้าไม่มัดติดตัวให้แน่นหนา มันจะหลุดกระจุยกระจายหมด และการสะพายย่ามต้องสะพายเฉียง

3. สิ่งของที่ควรจะอยู่ในย่าม คือ เมล็ดพันธุ์พืชต่าง ๆ ที่ท่านชอบรับประทาน นอกนั้นไม่มีประโยชน์ จะรอบคอบอีกหน่อยก็อาจจะเอาน้ำดื่มใส่ขวดเล็ก ๆ ไว้ในย่ามสักขวด ไฟแช็ก กันน้ำได้ยิ่งดี และมีดพก จะเป็นมีดพับหรือมีดเข้าฝักอย่างไรก็แล้วแต่ที่ลงย่ามได้ เชือกสักเส้นก็ดี และแถมอีกนิดรองเท้าแตะเบา ๆ พอช่วยให้เดินได้บนป่าเขาลำเนาไพร

4. ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีเพื่อนร่วมทาง เพราะเรือแต่ละลำจะนำท่านไปเป็นกลุ่ม ๆ ไปทำความรู้จักกันที่โน่นก็แล้วกันนะคะ ส่วนคนที่พลัดพรากจากคนที่รักก็ไม่ต้องห่วง ถ้า ภรรยา/สามี พ่อ แม่ ลูก หลาน ญาติ พี่น้อง และเพื่อนของท่านได้รับการช่วยเหลือก็อาจจะไปเจอกันที่โน่น เป็นการผจญภัยที่น่าอัศจรรย์จริงเชียว

5. คลื่นยักษ์จะเข้าโจมตีเมืองหลวงในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2555

ข้อ สรุปที่ข้าพเจ้านำเสนอให้ทราบ เหมาะสำหรับผู้ที่คิดจะปักหลักอยู่ในพื้นที่ สู้จนวินาทีสุดท้าย ส่วนท่านที่มีกลุ่มและมีเป้าหมายชัดเจนแล้ว ท่านก็คงจะอพยพไปก่อนที่ภัยจะมา คนที่เหลืออยู่ก็จะเป็นกลุ่มคนไม่รู้ กับกลุ่มคนที่รู้แต่ไม่ไป คือยอมตายว่างั้นเถอะ ก็สุดแท้แต่ท่านจะใช้สติปัญญาพิจารณาก็แล้วกันนะคะ ขอให้ทุกท่านโชคดี

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Amity Bike Co - Damo Wilkinson

BMX Dirt Jumps

Saracen ALX Build with Lance McDermott

Old Fools bmx cruiser skatepark

Flatland 24" BMX-Cruiser

Dark Side of the Moon

KKL_BLOG 17 - INTRO MEGA FLOOD

UFO IN THAILAND (TRACKING TEST ) : ลิงน้อย ต่างดาว

วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

The Beginning of the Contact with the Extraterrestrials at Kao Kala

17 tuned/Gybzy & Giftza - I Like That Boy feat.ขัน Thaitanium

17 tuned/I Like That Boy - กิ๊บซี่-กิ๊ฟท์ซ่า ที่โดนแบน

17 tuned/Gybzy & Giftza - I Like That Boy (Feat.ขัน Thaitanium)

100% Proof Of Alien Civilizations Exist On The Moon - Nasa Lies Uncovere...

UFO Sightings Most Shocking New T.V. Series!

Second Alien Sighting Brazil Oct, 22 2011

INCREDIBLE REAL UFO FOOTAGE CAPTURED IN AUSTRALIA OCTOBER 2011

UFO Sightings T.V. Show Evidence Showcases Flying Saucer Oct, 27 2011

UFO: Lee's Summit, MO, 10-31-11

ระบบ flow

http://ufokaokala.com/index.php?topic=5025.0

Re: กลุ่มประสานงานฯนำโดย อ.พีทและทีมงาน นำอาหารและที่นอนไปแจกผู้ประสบอุทกภัย16/11/11

ภาพแห่งความห่วงใย
ภาพของการแบ่งปันน้ำใจ..
ภาพของการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
และนี่คือ....
อีกหนึ่งความประทับใจที่ขอร่วมอนุโมทนาด้วย





ใน สถานการณ์อุทกภัยน้ำท่วม ยังคงทำให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัย ความโกลาหล ความวุ่นวาย ยังคงมีให้เห็นอย่างมากมายในทุก ๆ แห่ง ทุก ๆ สถานที่ ที่มวลน้ำเข้าไปถึง

ความเสียหายย่อมไม่ต้องพูดถึง มีความบอบช้ำมากมาย ทั้งร่างกาย จิตใจ และทรัพย์สิน

ผู้ ประสบอุทกภัยน้ำท่วม ได้รับความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน สัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ทั้งหลาย ต่างได้รับความเดือดร้อน ต้องทนทุกข์กับหายนะภัยครั้งนี้ไปพร้อม ๆ กัน

แต่ในท่ามกลางความทุกข์ใจ เรากลับได้เห็นอีกมุมหนึ่งของน้ำใจคนไทย ที่ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนักในโลกปัจจุบัน

ความ ช่วยเหลือ ความห่วงใย ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความทุ่มเทแรงกายแรงใจ การแบ่งปันให้กันและกัน โดยไม่ได้มีความผูกพัน หรือรู้จักกันมาก่อนนั้น มีให้เห็นอย่างมากมายในยามที่เกิดอุทกภัยในครั้งนี้

ในความเลวร้ายจากสถานการณ์ที่ไม่อาจแก้ไข แต่ก็มียังมีด้านดี ๆ อีกมากมายที่ได้พบเจอ

จากวิกฤติ กลายเป็นโอกาส..ให้กับคนอีกหลาย ๆ คน ที่เริ่มมีมุมมองใหม่ขึ้นมา

เชื่อว่า หลังจากอุทกภัยครั้งใหญ่ได้ผ่านพ้นไปแล้ว จะมีหลายคนที่ได้คิด และเริ่มคิดได้

ความเห็นใจ การให้อภัย และความเมตตาซึ่งกันและกันจะมีให้เห็นมากยิ่งขึ้น

ทางโลกอาจดูเหมือนเลวร้าย
แต่ทางธรรม นี่คือโอกาส

หลายคน..ได้มีโอกาสเสียสละ...
หลายคน...ได้มีโอกาสเป็นผู้ให้
หลายคน...ได้มีโอกาสแบ่งปันแรงกาย แรงใจ รวมถึงทรัพย์สิน
ให้กับผู้ที่กำลังประสบอุทกภัยในครั้งนี้


กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)ก็เป็นกลุ่มบุคคลอีกกลุ่มหนึ่ง ที่อาจมีความเชื่อแตกต่างออกไปในสิ่งที่เชื่อได้ยากก็ตามนั้น

แต่ วันนี้ เมื่อมีผู้เดือดร้อนจากการประสบอุทกภัย สมาชิกหลายท่านก็ได้ร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือกันและกัน ตามกำลัง บางท่านช่วยทางกำลังกาย บางท่านช่วยทางกำลังใจ และบางท่านช่วยจากกำลังทรัพย์ของแต่ละท่านตามกำลังที่มี

และบางท่านได้ช่วยทั้งกำลังกาย กำลังใจ และกำลังทรัพย์ไปพร้อม ๆ กัน

ด้วยความมีสติ ด้วยความเข้าใจ ด้วยความห่วงใยกันและกัน...

เมื่อ มีโอกาสที่จะแบ่งปันความทุกข์ของผู้ที่กำลังประสบอุทกภัยให้เบาบางลง และมีรอยยิ้มขึ้นมาบ้างนั้น สมาิชิกของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) และผู้ที่มีจิตอาสาหลาย ๆ ท่าน ก็ไม่เคยหยุดยั้ง ได้ร่วมกันแบ่งปันน้ำใจ และนำสิ่งของไปมอบให้ผู้ประสบอุทกภัยกันอย่างต่อเนื่อง

จึงขอร่วมอนุโมทนา กับทุก ๆ ท่านที่ได้เดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้

ซึ่งนำโดยอาจารย์พีท ทองเจือ และครอบครัว รวมถึงคุณสายฟ้า เศรษฐบุตร

คณะฯ กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ทุก ๆ ท่าน

ทีมงาน Blog 17 และ ทีมงาน สว.ไพโรจน์ ทุ่งทอง (drift เปิดหมวก 2011)

และคณะผู้ร่วมสมทบบริจาคอาหารและสิ่งของทุก ๆ ท่าน

ขอ ร่วมอนุโมทนาในความห่วงใยที่มีให้กับผู้ประสบอุทกภัย และได้เดินทางนำเครื่องอุปโภค บริโภค ไปมอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในย่านพระรามสอง บางแค และเพชรเกษม ในครั้งนี้

ขอร่วมอนุโมทนาในจิตอันเป็นมหากุศลของทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

และขอร่วมส่งกำลังใจให้กับผู้ประสบอุทกภัยทุกท่าน จงผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปโดยเร็วค่ะ

พีท ทองเจือ อนุบาลนิธิกานต์ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 16 11 11

พีท ทองเจือ สายฟ้า เศรฐบุตร กรังด์ปรีซ์ชาแนล ม เศรษฐกิจ 16 11 111

พีท ทองเจือ สายฟ้า เศรฐบุตร กรังด์ปรีซ์ชาแนล ม เศรษฐกิจ 16 11 112

Re: กลุ่มประสานงานฯนำโดย อ.พีทและทีมงาน นำอาหารและที่นอนไปแจกผู้ประสบอุทกภัย16/11/11


เคย ได้ยินเขาพูดกันว่า "ของฟรีไม่มีในโลก" มนุษย์ต่างดาวอยู่ตั้งไกล จู่ๆ จะมาให้ความช่วยเหลือชาวโลกในยามที่จะเกิดภัยพิบัติใหญ่ๆ ในอนาคตไปเพื่ออะไรกัน ก็นี่ไงล่ะครับตัวอย่าง หากมีคำว่า "ให้" คำว่า "เสียสละ" อยู่ ณ ที่ใด ที่นั้นก็จะเปี่ยมไปด้วยความรัก ความเอื้ออาทร ความสงบ และความสุขที่ยั่งยืนยาวนาน ผู้รับก็ดีใจ ผู้ให้ก็จะเปี่ยมไปด้วยกุศลกรรมเป็นอันมากย้อนกลับคืนไป โดยเฉพาะผู้รับที่เขากำลังประสบกับภัยพิบัติอยู่ สิ่งของทุกสิ่งที่ได้รับก็ย่อมต้องถูกนำไปใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดสำหรับการ ดำรงค์ชีวิตของเขาเหล่านั้น

มนุษย์ต่างดาวเคยบอกไว้ว่า จะมาให้ความช่วยเหลือตามกฎของธรรมชาติ กฎของธรรมชาติหมายถึงอย่างไร ก็คือผู้ที่เข้าถึงธรรมแล้ว หรือผู้ที่กำลังดำเนินแนวทางตามองค์มรรคอยู่นั้น ย่อมจะต้องมีธรรมะอยู่ในจิตใจ โดยออกมาจากจิตจากใจมิใช่เพียงแค่รู้ หรือท่องจำ ว่านี่คือการให้ หรือการเสียสละ เพราะสิ่งนี้มันเป็น"คุณธรรม"ตามกฎของธรรมชาติที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนไว้ นั่นเอง

ขออนุโมทนากับทุกๆ ท่านด้วยครับ

วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

อัตตา

ผมไม่เคยอยากเป็นดารา ไม่ได้อยากมีชื่อเสียงพิเศษใดๆ จะบอกว่าผมเคยปรุงแต่งกับความคิดตัวเองว่า 'ผมเกลียดดารา เกลียดการเป็นดารา' แต่ทุกอย่างมันถูกกำหนดไว้หมดแล้ว มันเป็นการเดินทางของเวลา ทีจะพาคุณไปยังที่ที่คุณถูกกำหนดเอาไว้
ผมเป็นนักแสดงวัยเด็กที่เริ่มทำงานตั้งแต่ 6ขวบครึ่ง ยังไม่รู้ด้วยซํ้าด้วยว่าการทำงานคืออะไร และเมื่อเริ่มทำงานก็ต้องมีความรับผิดชอบตามมา ไม่ว่าจะเป้นเรื่องเวลา ภาระกิจของงานประจำวันนั้นๆ ๙ล๙ ผมถุกจับพลัดจับพลูเข้ามาทำงานโดยเพื่อนคุณพ่อคนนึง ใส่ผมลงไปในโฆษณานํ้ามันตับปลายี่ห้อนึง เป็นการเปิดตัวที่ดีผมกลายเป็นที่ต้องการของเจ้าของงานต่างๆในวงการบันเทิง หนัง,ละคร,โฆษณา,ถ่ายแบบ,เดินแบบ ออกงานต่างๆ
<ยังไม่จบ กลับมาต่อเรื่อยๆ>


สู้ สู้ นะฮะคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

เตือนภัยระวังกรุงเทพฯจมบาดาล(2).wmv

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ภัยการเมืองร้ายแรงกว่าภัยธรรมชาติ

ค.คนรักรถ /พีท ทองเจือ

Davide เอ็มเดอะสตาร์ พีท ทองเจือ.mp4

พีท ทองเจือ เสนาลิงและทีมงาน พระราม2 ซ 69 16 11 113

พีท ทองเจือ เสนาลิงและทีมงาน พระราม2ซ 69 16 11 112

พีท ทองเจือ เสนาลิงและทีมงาม พระราม2ซ 69 16 11 111

พีท ทองเจือ เสนาลิงและทีมงาน พระราม2ซ 694

ดร.สมิทธ จับตารอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ อาจเกิดแผ่นดินไหว

ดร.สมิทธ จับตารอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ อาจเกิดแผ่นดินไหว


สมิ ทธ หวั่นอาจเกิดแผ่นดินไหวที่รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ต่อจากอุทกภัย จี้ทุกฝ่ายร่วมมือกันรวมข้อมูลเข้าศูนย์กลาง เพื่อการเตือนภัยล่วงหน้ารับมือภัยธรรมชาติ

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน นายสมิทธ ธรรมสโรช คณะกรรมการวางยุทธศาสตร์น้ำ กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำเหนือยังเหลืออีกประมาณ 9,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลานานกว่า 1 เดือน จึงจะสามารถระบายน้ำออกได้หมด ทั้งนี้ มหันตภัยน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นเพราะคนประมาทเกินไป และโยงเรื่องน้ำมาสู่การเมือง เป็นเหตุให้ไม่มีการตัดสินใจแบบรวมศูนย์ เพราะต่างฝ่ายต่างทำ

นายสมิทธ ยังระบุว่า ถึงเวลานี้ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน เพื่อมองอนาคตของประเทศ เพราะหากยังไม่มีแนวทางชัดเจน และยังไม่ปรับเปลี่ยนแนวคิดการทำงาน ไม่เกิน 10 ปี กรุงเทพมหานครคงหายไปจากแผนที่โลกอย่างแน่นอน เพราะถึงวันนี้น้ำทะเลจะหนุนสูงเพิ่มขึ้นเป็น 1-1.5 เมตร และทำให้กรุงเทพมหานครถูกน้ำท่วมทั้งหมด ดังนั้น ประเทศไทยต้องปรับข้อมูลทั้งหมด นำมารวมกันเป็นข้อมูลกลาง เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดเหมือนครั้งนี้ และที่สำคัญคือต้องจัดให้มีการเตือนภัยระยะไกล และคาดการณ์ล่วงหน้าก่อนเกิดภัย 3 เดือน อย่างที่ต่างประเทศใช้กัน

ส่วนเรื่องการเตือนภัยอื่น ๆ นั้น ที่สำคัญมากก็คือการเตือนภัยแผ่นดินไหว เพราะเชื่อว่าในปีสองปีนี้มีสิทธิ์เกิดแผ่นดินไหวขึ้นได้ เนื่องจากเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ ที่บริเวณเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับอิทธิพลจากแผ่นดินไหวใหญ่ที่ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า อีกทั้งขณะนี้พื้นดินใต้ประเทศไทยได้รับความเสียหาย เพราะถูกน้ำท่วมขังนาน และน้ำยังได้เข้าไปกัดเซาะมากขึ้นด้วย ดังนั้น หากไม่มีการรวมศูนย์ข้อมูลเพื่อเตือนภัย ก็มีสิทธิ์จะเกิดภัยพิบัติอีกครั้งในเมืองไทย

วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ระบบ / หนังสือธรรมะเพื่อการละวางอัตตาตัวตน

หนังสือธรรมะเพื่อการละวางอัตตาตัวตนเล่มใหม่นี้ จึงเป็นการรวบรวมข้อมูลที่เรียบง่าย เข้าใจได้ทันที แต่ถูกตรงตามกฏของธรรมชาติ ตามกฏของจักรวาล ที่มุ่งเน้นให้เกิดปัญญาพิจารณาขันธ์ห้าตามความเป็นจริง ให้เห็นการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ซึ่งเกิดขึ้นในขันธ์ห้าเป็นหลัก

เป็นการถ่ายทอดมาจากผู้รู้จากดวงดาวอื่น ที่เข้าใจกลไกของธรรมชาติ และมุ่งเน้นชี้ให้เห็นความเป็นเช่นนั้นเองของขันธ์ห้า

และเพราะความเรียบง่าย เข้าใจได้ในทันทีที่อ่านจบ จนบางครั้งหลายท่านอาจคิดว่ามันง่ายไป จึงไม่สนใจที่จะลองปฏิบัติดู

แต่ หลายท่านที่ได้พิจารณาทำความเข้าใจ ลองปล่อยวาง ละการยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้าดูบ้าง แล้วพบว่าเบาบางจางคลายจากทุกข์ เกิดปัญญารู้เท่าทันขันธ์ห้ามากขึ้น การยึดมั่นถือมั่นเริ่มน้อยลง น้อยลง จนเริ่มห่างจากการยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้าทีละน้อย ทีละน้อย และความทุกข์เริ่มจางคลายหายไปนั้น ก็จะเริ่มเข้ามาศึกษามากขึ้น เข้าใจมากขึ้น และการยึดมั่นถือมั่นยิ่งน้อยลงไปเรื่อย ๆ

เท่ากับ ว่า ท่านได้เริ่มรู้เท่าทันธรรมชาติ รู้เท่าทันกลไกในขันธ์ห้า เริ่มละวางอัตตาตัวตนที่ถูกปรุงแต่งขึ้นมาโดยอุปาทาน เมื่อละวางมากขึ้น ความทุกข์จึงเริ่มน้อยลง

เพราะสิ่งใดก็ตาม เมื่อยึดมาก..ก็ทุกข์มาก ยึดน้อย..ก็ทุกข์น้อย ไม่ยึด..ก็ไม่ทุกข์ เป็นธรรมดา

และเมื่อความทุกข์น้อยลง การยึดมั่นถือมั่นน้อยลง การที่จะให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลบุคคลอื่น ๆ จึงสามารถทำได้มากขึ้นนั่นเอง

ข้อความในหนังสือเล่มนี้ จึงเป็นแนวทางที่สมาชิกหลาย ๆ ท่าน ของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ได้นำไปปฏิบัติ แล้วพบว่าสามารถ “พัฒนาความสามารถในการเห็นความว่าง” ว่างจากการยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า ในอัตตาตัวตนได้จริง

เมื่อได้ประโยชน์ตน เบาบางจางคลายจากทุกข์แล้ว
ก็ยัง...ประโยชน์ท่าน...ต่อไป โดยเตรียมความพร้อมเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ในยามเกิดภัยพิบัติบนโลกใบนี้...

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

ระบบ / ธรรมชาติ

ธรรมะ หรือธรรมชาติ เป็นสัจจะธรรม เป็นกฎของธรรมชาติ เป็นหนึ่งเดียวไม่มีการแบ่งแยกใด ๆ และมีอยู่ทั่วไปในทุก ๆ จักรวาล

อยู่ที่ว่า ใครจะมีปัญญามองเห็น หรือเข้าใจในกฏธรรมชาติได้มากน้อยแค่ไหน

ลำพัง ปัญญาของสัตว์โลก ที่จะเห็นเอง รู้เอง เข้าใจได้เองในกฏธรรมชาตินั้นยากยิ่งนัก นอกจากจะมีผู้รู้ ได้ค้นพบสัจธรรม ได้ตรัสรู้ หรือรู้แจ้งในกฏธรรมชาติแล้วมาสั่งสอนเวไนยสัตว์ให้ได้รู้ตาม เห็นตาม จึงจะพอเห็นแนวทางของการที่จะปล่อยวาง ละการยึดมั่นถือมั่นได้

และผู้รู้ ผู้ที่เข้าใจในกฎธรรมชาตินี้ ก็มิได้มีแต่โลกเราเท่านั้น ที่สามารถรู้ สามารถเห็น สามารถเข้าใจได้

โลก อื่น ๆ ดวงดาวอื่น ที่มีความเจริญทางจิต ก็ย่อมมีผู้รู้ที่สามารถค้นพบกฏธรรมชาตินี้เช่นกัน แล้วสั่งสอนให้มนุษย์ในดวงดาวนั้น ได้รู้ตาม เห็นตาม เข้าใจในกลไกของธรรมชาติ และออกจากการยึดมั่นถือมั่นได้เช่นกัน แม้จะแตกต่างในรูปแบบ ตามแต่เหตุปัจจัยของดวงดาวนั้น ๆ

มีคำพูดที่ได้ยินกันอยู่เป็นประจำว่า พระพุทธเจ้ามีมากมาย มากกว่าเม็ดทรายในท้องมหาสมุทรทั้ง ๔

พระพุทธเจ้าที่มีอยู่มากมายกว่าเม็ดทรายในมหาสมุทรนั้น มีทั้งทรงตรัสรู้ผ่านมาแล้ว และยังทรงตรัสรู้อยู่ตลอดเวลาในขณะนี้ ในแต่ละสถานที่ ในแต่ละดวงดาว ในจักรวาลต่าง ๆ มากมาย และยังคงมีการสั่งสอนมนุษย์ในดวงดาวนั้น ๆ ให้เกิดปัญญาเห็นธรรมอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน

พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ตรัสรู้ในกฎเดียวกัน มีลักษณะเป็นไตรลักษณ์ คืออนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ซึ่งเป็นกฏของธรรมชาติ เป็นกฎของจักรวาล

ดัง นั้น ธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ และนำมาสั่งสอนนั้น จึงเป็นสัจจะธรรม เป็นกฎของธรรมชาติ ที่เน้นให้เข้าใจในความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่ได้เป็นตัวตน นั่นเอง

ดังที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้กล่าวไว้ในหัวข้อสัจจะธรรม กาลเวลาว่า
......

ธรรมะ นั้นคือสัจจะ อันได้แก่ความจริง ดังจะเรียกควบกันว่าสัจจะธรรม ธรรมะคือความจริง พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้สัจจะธรรม แล้วได้ทรงนำสัจจะธรรมที่ได้ตรัสรู้นั้นมาแสดงสั่งสอน สัจจะธรรมนี้เป็นสภาพที่มีอยู่ พระพุทธเจ้าผู้พระตถาคตจะตรัสรู้ หรือไม่ตรัสรู้ก็ตาม สัจจะธรรมก็มีอยู่ ดังที่ได้ตรัสไว้ว่า ธาตุนั้นมีอยู่ ตั้งอยู่ เป็นความตั้งอยู่แห่งธรรม ที่เรียกว่าธรรมฐิติ เป็นความกำหนดได้แห่งธรรมอันเรียกว่าธรรมนิยาม คือข้อที่สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ดั่งนี้ เมื่อพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้แล้ว จึงทรงนำมาแสดงสั่งสอน จำแนกแจกแจงกระทำให้ตื้น เพื่อให้เวไนยนิกร คือหมู่ชนที่พึงแนะนำได้ ได้รู้ได้เห็น ได้เข้าใจตามพระองค์ ว่าสังขารทั้งปวงไม่เที่ยง สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ดั่งนี้

วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

All-New BT-50 Special Surfaces Testing

New Mazda BT-50 Teaser Australia 2011.

The All-New BT-50 Road Test

All-New Mazda BT-50 TVC

Mazda B2200

MAZFIX BT50 7.07 TESTING at BRACKET MEET

2011 Mazda BT-50 Freestyle

Top Gear - Best America's 4x4 Truck part 1/5

racecars with pure engine sounds

Mazda 3 sedan 20b racecar BTCS

Mazda 3 sedan 20b racecar at Spa-Francorchamps BTCS

ระบบ/เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย ของมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา

เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย อะไรก็เกิดขึ้นได้ อย่าตีกรอบ

คำระบบ หนึ่งในหลาย ๆ คำ ที่หลาย ๆ ท่านเริ่มคุ้นเคย

แต่จะมีสักกี่คนที่เข้าใจความหมาย เข้าใจจุดมุ่งหมาย และทำความเข้าใจในวัตถุประสงค์ของคำจากระบบคำนี้ได้อย่างแท้จริง

เรื่อง จริงยิ่งกว่านิยาย เพราะแม้แต่นิยายไซไฟ ที่ดูเหมือนมหัศจรรย์ทั้งหลาย ยังจินตนาการได้ไม่เท่าของจริง ที่ระบบได้วางโครงสร้างไว้

อะไรก็เกิดขึ้นได้ สิ่งที่คิดไว้ สิ่งที่คาดไว้ สิ่งที่ไม่เคยเข้าใจ สิ่งที่คิดว่าไม่่น่าจะเป็นไปได้ หรือควรจะเป็นเช่นนี้ ก็อาจไม่เป็นดังที่คิดไว้ เพราะอะไรก็จะเกิดขึ้นได้เสมอ

อย่าตีกรอบ เพราะความคิดของมนุษย์จินตนาการได้เท่ากับสิ่งที่เคยได้ยิน ได้ฟัง ได้รับรู้มาเท่านั้น ดังนั้น สิ่งที่ยังไม่รู้ ยังไม่เคยพบเคยเห็น หรือไม่เคยได้ยิน ได้ฟัง การที่จะให้เชื่อในสิ่งอื่น ๆ ที่ไม่เคยได้ยิน ได้ฟัง ได้พบ ได้เห็นนั้นย่อมเป็นเรื่องยาก ดังนั้น ต่อให้เปิดมุมมองมากมายแค่ไหน ก็ยังมีกรอบความคิดว่าเท่านั้น เท่านี้อยู่ดี

ดังนั้น ระบบจึงมิได้มุ่งหมายให้คนทั่วไปเชื่อในสิ่งที่ยังไม่เคยพบ เคยเห็น เคยได้ยิน ได้ฟัง ได้รับรู้เหล่านี้

เพราะ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะไปเปลี่ยนความเชื่อ ของบุคคลอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ไม่ได้เคยพบ เคยเห็น เคยได้ยินได้ฟังเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้จะเชื่อถือได้

แต่ไม่ได้หมายความว่า สิ่งที่ไม่เคยได้รู้ ไม่เคยได้เห็น ไม่น่าเชื่อเหล่านี้ จะไม่มีจริง....

เพราะ ในความคิดของบุคคลทั่วไป จะเชื่อได้อย่างไร กับสิ่งที่กลุ่มคนธรรมดา ธรรมดา ออกมาบอกว่าได้ทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาว ที่มาเตรียมการช่วยเหลือมนุษย์โลกเมื่อเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่บนโลกใบนี้

ไม่ ใช่เรื่องแปลกที่เกิดความสงสัย....ว่าเพราะเหตุใด? มนุษย์ต่างดาวที่มีความเจริญทางจิต สูงด้วยเทคโนโลยี และอยู่ในดวงดาวที่ไกลแสนไกล แต่ทำไมมาติดต่อกับคนไทยอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

จะเชื่อได้อย่างไรว่าภัยพิบัติที่มนุษย์ต่างดาวบอกว่าจะมาช่วย จะเป็นเรื่องจริง ภัยร้ายแรงจะเกิดขึ้นจริง ๆ

แล้ว การที่มนุษย์ต่างดาวบอกว่า เขามาเตรียมการให้ความช่วยเหลือ จะเป็นจริงได้อย่างไร? จะช่วยมนุษย์แบบไหน? ภัยร้ายแรงคืออะไร?

คำ ถามมากมายจากบุคคลทั่วไปที่ต้องการรู้ ต้องการทราบเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา และเมื่อตอบไป หลายท่านก็ไม่อาจจะเชื่อได้อยู่ดี

เพราะต่อให้เปิดใจกว้างมากแค่ไหน ก็ยังมีกรอบความเข้าใจในวงจำกัดอยู่นั่นเอง

จึงมีผู้ที่จะเข้าใจโครงการช่วยเหลือภัยพิบัติของมนุษย์ต่างดาวในโครงการนี้ มีจำนวนน้อยนัก

แต่นั่นมิใช่ประเด็นที่ระบบได้มุ่งหมาย เพราะไม่ว่าจะมีผู้เข้าใจ และร่วมงานมากน้อยเท่าใด งานของระบบก็ยังคงดำเนินไปเช่นเดิม

ดังนั้น ระบบจึงผ่านข้อความเพื่อแจ้งให้ทราบ เป็นระยะ ๆ ผ่านเว็บไซด์ www.ufokaokala.com แห่งนี้

เป็น การ แจ้งเพื่อทราบ...ตามที่ได้รับข้อความมา ซึ่งผู้ได้รับข่าวสารจะเชื่อหรือไม่...ก็แล้วแต่บุคคลท่านนั้น ที่ต้องใช้วิจารณญาณของแต่ละท่านเอง

เพราะสิ่งเหล่านี้ เป็นความเชื่อของคนกลุ่มหนึ่งที่ได้ประสบพบเจอมา....และเชื่อได้ว่า เป็นเรื่องจริง

ขอ ย้ำอีกครั้งหนึ่ง....ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นความเชื่อของบุคคลกลุ่มหนึ่งที่ ชื่อ....กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ว่าสิ่งที่กำลังดำเนินการอยู่นี้เป็นเรื่องจริง

แม้ว่าจะดูเหลือเชื่อยิ่งกว่านิยาย...ที่หลาย ๆ คนจินตนาการไว้มากมายนักก็ตาม.

ดัง นั้น แม้ว่าเรื่องราวของการทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาว จะดูเหลือเชื่อ จะดูเหมือนเพ้อเจ้อ จะดูเหมือนไร้สาระ ในสายตาของคนทั่วไป

ในความยากของการจะเชื่อได้นั้น ต้องผ่านการทดสอบ ทดลอง และเห็นจริงในระดับหนึ่ง

ระบบ จึงได้มีการคัดเลือกผู้ร่วมงานไว้อย่างมีประสิทธิภาพ

มี การทดสอบ ทดลอง อีกทั้งยังมีแรงเสียดทานจากบุคคลรอบข้างมากมาย อยู่ที่ใครจะมีความเข้าใจและอดทนกับคำครหานินทาได้มากน้อยแค่ไหน และผ่านมายืนอยู่ได้ ณ จุดนี้

ดังนั้น ทุกท่านที่จะเชื่อถือได้ เข้าร่วมงานได้ จึงต้องใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองด้วยตนเอง ก่อนที่จะเชื่อ

ณ วันนี้ จึงมีบุคคลส่วนหนึ่ง ที่เข้าร่วมทำงานกับมนุษย์ต่างดาวแล้วในหลายรุ่น ซึ่งแยกกันทำงานแต่ละหน้าที่ มีทั้งเห็นหน้าเห็นตากันผ่านกิจกรรมกลุ่มประสานงานฯ ซึ่งมีการนำข้อมูลแจ้งให้ทราบทางเว็บไซด์ ufokaokala.com แห่งนี้

และ ในส่วนใหญ่อาจไม่ได้มาร่วมในกิจกรรม แต่เป็นผู้ติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง และมีความเข้าใจในกลไกของระบบ และอาจมีหน้าที่แตกต่างกันไป เรียกว่าทำงานแบบเดี่ยว ขึ้นตรงกับระบบ ซึ่งมีทั้งด้านปฏิบัติการ ทั้งด้านสนับสนุน ทั้งด้านนำเสนอข้อมูลภัยพิบัิติ และส่วนหนึ่งเป็นผู้ติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านเว็บไซด์แห่งนี้

ไม่มีใครทราบว่าท่านเป็นหนึ่งในทีมงานของมนุษย์ต่างดาวหรือไม่ ยกเว้นตัวท่าน กับมนุษย์ต่างดาว

และจากเรื่องราวที่ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเป็นไปได้ ก็เริ่มมีหลักฐาน และพยานบุคคลปรากฏชัดเจนมากขึ้น มากขึ้น

นอก จากนี้ ระบบยังได้ทำตัวอย่างให้เห็น ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ทดสอบทดลองในกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่ง ที่ระบบให้ชื่อว่า แพทย์แผนอนาคต ได้นำไปทดลองใช้ เพื่อให้เห็นถึงประสิทธิภาพเทคโนโลยีจากต่างดาว และเพื่อเป็นตัวอย่างของอุปกรณ์ที่จะนำไปช่วยเหลือยามเกิดภัยพิบัติใหญ่ ๆ ในอนาคต เพื่อให้มนุษย์ได้รับทราบ ให้ได้รับรู้ในบางส่วน

รวมถึง นำยานอวกาศมาให้ดูเพื่อเป็นการยืนยัน มีการเปิด ปิด มิติ มีการย้ายมวลสารให้เห็น มีการส่งภาพ ส่งคลื่นเสียง ส่งคลื่นความคิด หรือแม้กระทั่งส่งเป็นข้อความเดียวกันผ่านอุปกรณ์ ไปยังบุคคลหลาย ๆ คนในเรื่องเดียวกัน เพื่อเป็นการยืนยันในข้อมูลว่ามีการส่งผ่านมาจริง

ผู้ ที่เคยพบ เคยเห็น และได้รับทราบในข้อมูลระบบ ก็จะมีความเข้าใจ และปล่อยวางได้ในระดับหนึ่ง ที่จะไม่ยึดมั่นถือมั่นในเทคโนโลยีของต่างดาว

บุคคล กลุ่มนี้ ผู้ที่ติดตั้งเทคโนโลยีจากต่างดาวนี้ กลุ่มแพทย์แผนอนาคตนี้ มีตัวตนจริง และสามารถใช้อุปกรณ์จากต่างดาวช่วยเหลือบุคคลอื่น ๆ ได้จริง และบุคคลที่ได้รับรู้ สัมผัส และได้ทดสอบอุปกรณ์จากต่างดาวแล้วเห็นผลนั้น ก็อาจเชื่อถือเพิ่มขึ้นมาอีกส่วนหนึ่ง

มนุษย์ต่างดาวได้กล่าวไว้ว่า "มาเตรียมการให้ความช่วยเหลือมนุษย์โลกในเหตุการณ์ของภัยพิบัติใหญ่ ๆ ในทุกด้าน"

ใหญ่แค่ไหนนั้น มนุษย์จินตนาการไม่ถูก เพราะไม่เคยพบ ไม่เคยเจอ ไม่เคยเห็นมาก่อน

และ ยิ่งเป็นการพูดเรื่องของการมาเตรียมการให้ความช่วยเหลือจากมนุษย์ต่างดาว ที่ระดมมาจากหลาย ๆ ดวงดาวเพื่อช่วยเหลือมนุษย์โลกด้วยเทคโนโลยีที่จะนำมามอบให้เพื่อใช้ช่วย เหลือแล้ว

ยิ่งเชื่อถือไม่ได้มากยิ่งขึ้นไปอีก

และคนที่กล่าวถึงเรื่องนี้ ก็ไม่ได้เป็นคนมีชื่อเสียง ไม่ได้เป็นคนที่มีความสามารถมากมาย แล้วจะเชื่อถือได้อย่างไรกัน

แม้ บุคคลที่น่าเชื่อถือ ที่มีตัวตนอยู่จริง ที่ได้เคยออกมากล่าวถึงภัยพิบัติใหญ่ที่จะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ และเรื่องของมนุษย์ต่างดาวที่มาติดต่อกับมนุษย์โลกเพื่อเตรียมให้ความช่วย เหลือจากภัยพิบัติครั้งใหญ่ก็ตาม

ก็ยังยากที่คนทั่วไป ที่ไม่เคยได้พบ ได้เห็น ได้ยิน ได้ฟัง จะเชื่อถือได้อยู่ดี

อย่าง เช่น ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน ที่ท่านก็ได้รับการสื่อสารจากมนุษย์ต่างดาวโดยตรง ท่านก็กล่าวยืนยันว่า จะเกิดภัยพิบัติบนโลกใบนี้ และมนุษย์ต่างดาวก็มาเตือนและมาเพื่อช่วยโลกใบนี้

หรือกรณีของ อาจารย์สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา ที่ได้ให้สัมภาษณ์เรื่องของภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งมีข้อมูลยืนยันจากองค์การนาซ่าด้วยนั้น ได้ออกมาเปิดเผยให้คนไทยได้รับรู้แล้วก็ตาม ก็ยากจะเชื่อได้อยู่นั่นเอง

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

UFO Thailand.

UFO Thailand by Alongkorn (Kaokala)

ระบบโชว์การเปิดมิติ/Dimension Opening at Kaokala Thailand

Message from the Universe

The Beginning of the Contact with the Extraterrestrials at Kao Kala

บ้านลอยน้ำ ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ



แบบบ้านลอยน้ำ เพื่อประโยชน์แก่สาธารณะชน
ที่เดือดร้อนประสบปัญหาน้ำท่วมบ่อย

บ้านลอยน้ำ ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ รูปที่ 1


บ้านลอยน้ำ ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ รูปที่ 2บ้านลอยน้ำ ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ รูปที่ 3


27 กันยายน พ.ศ. 2550 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับ “บ้านลอยน้ำ” ได้ เล็งเห็นถึงความสำคัญของบ้านที่จะสามารถป้องกันภัยดังกล่าวได้ จึงได้เริ่มทำการศึกษาเพื่อการออกแบบ จากแหล่งต่างๆ ทั้งจากในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บ้านท่าขนอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งยังมีบ้านลอยน้ำภูมิปัญญาชาวบ้าน ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในพื้นที่


บ้านลอยน้ำ ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ รูปที่ 4




เมื่อ 27 กันยายน พ.ศ. 2550 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ เสด็จมายังกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อทรงเปิดพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุ วัดติวงศ์ เมื่อได้ทอดพระเนตรนิทรรศการแบบบ้านเพื่อประชาชนของกรมฯ แล้ว ได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับ “บ้านลอยน้ำ”
จากภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ได้ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมากทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ประสบ ภัย กรมโยธาธิการและผังเมืองซึ่งมีภารกิจหลักประการหนึ่ง คือการให้บริการแบบบ้านเพื่อประชาชนที่มีอยู่อย่างหลากหลาย รูปแบบในระดับราคาต่างๆ กัน กรมโยธาธิการและผังเมืองจึงได้ออกแบบบ้านหลังนี้ขึ้น โดยปรับใช้แนวคิดจาก “บ้านลอยน้ำท่าขนอน”และ เรือนแพของชาวบ้านในอดีต นำมาประยุกต์ ใช้กับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ซึ่งในฤดูแล้งตัวบ้านจะตั้งอยู่บนพื้นดินตามปกติ แต่เมื่อมีน้ำท่วมก็จะลอยขึ้นตามระดับน้ำได้ โดยจะมีการยึดตัวบ้านไว้กับเสาหลักทั้งสี่มุม เพื่อป้องกันการโคลงตัวหรือลอยไปตามกระแสน้ำ และเมื่อระดับน้ำลดลงตัวบ้านก็จะกลับมาตั้งอยู่บนพื้นดินตามเดิม

บ้านลอยน้ำ ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ รูปที่ 5


ขนาดของบ้านลอยน้ำที่ได้ออกแบบขึ้นนี้ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของขนาดวัสดุสำเร็จรูปที่มีขายอยู่ทั่วไปในท้องตลาด เพื่อให้เป็นการใช้วัสดุที่คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้และทำการก่อสร้างได้ง่าย เนื่องจากมีระบบวิศวกรรมโครงสร้างเป็นรูปแบบอย่างง่าย ชาวบ้านที่มีความรู้ด้านช่างในระดับทั่วไปก็จะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ เอง
บ้านหลังนี้มีขนาดพื้นที่รวม ประมาณ 60 ตารางเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่ไม่ใหญ่มาก เพื่อความสะดวกในการก่อสร้างและการลอยน้ำ แต่หากมีความต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้น ก็อาจเชื่อมต่อหลายหลังเข้าด้วยกัน โดยใช้สะพานทางเชื่อม พาดระหว่างชานรอบตัวบ้าน

สำหรับราคาค่าก่อสร้างประมาณการได้ว่า กรณีดำเนินการก่อสร้างเองจะมีราคาประมาณหลังละ 719,000 บาท หากจ้างเหมาราคาประมาณหลังละ 915,000 บาท เนื่องจากต้องมีการคิดค่าดำเนินการ กำไรและภาษีด้วย
แบบบ้านลอย น้ำของกรมโยธาธิการและผังเมืองนี้ น่าจะเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องอยู่ อาศัยในพื้นที่ที่อาจต้องประสบภัยน้ำท่วมตามฤดูกาลได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อยู่อาศัยในบริเวณเที่เป็นที่ลุ่ม โดยอาจปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรูปแบบและพื้นที่ใช้สอย ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องตามความต้องการที่แท้จริงของตนเองต่อไป

บ้านลอยน้ำ ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ รูปที่ 6 บ้านลอยน้ำ ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ รูปที่ 7

บ้านลอยน้ำ ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ รูปที่ 8


สนใจสอบถามไปได้ที่ 0-2299-4471-72, 0-2299-4858, 0-2299-4877
หรือเข้าชมรายละเอียดที่เว็บไซท์ของกรมโยธาธิการและผังเมือง

10 อันดับองค์กรลับครองโลก !!!


จะพาไปล้วงลับข้อมูลลับๆของ 10 อันดับองค์กรลับที่ใครๆหลายๆคนคงจะเคยได้ยินชื่อมาอย่างแน่นอนใน "10 อันดับองค์กรลับครองโลก

มาเริ่มที่ อันดับ10 กันเลย

Skull and Bones

สมาคม หัวกะโหลกและกระดูกไขว้เป็นสมาคมที่ก่อ ตั้งในมหาวิทยาลัยเยลในปี 1832 เริ่มต้นขึ้นในหมู่นักศึกษาปีสุดท้าย จากนั้นสมาชิกเก่าจะคัดเลือกทาบทามเชิญนักศึกษาเพียงปีละ 15 คน โดยมีคุณสมบัติของผู้จะได้รับการคัดเลือกคือ ในครอบครัวเคย เป็นสมาชิกองค์กรนี้มาก่อน, เป็นคนหนุ่มไฟแรงมีความกระตือรือล้นสูง, ชอบการเมือง, ฐานะดี, ฉลาด, เก่งกีฬาและชอบทำงานเป็นทีม โดยสมาชิกทุกคนจะต้องทาพบหน้าทุกวันพฤหัสบดีและวันอาทิตย์ในแต่ละสัปดาห์ โดยสมาชิกเหล่านี้ถูกเรียกว่า “สุสาน” สมาคมแห่งนี้ให้ความสำคัญต่อ สมาชิกเป็นหลัก และเคารพกฎเหนือสิ่งอื่นใด โดยทิ้งความเชื่อเดิมและรับเอาเป้าหมายและปรัชญาของ สมาคม เพียงหนึ่งเดียวคือ เป็นผู้นำโลก ในแต่ละช่วงสมาชิกสมาคมนี้จะมีประมาณ 500-600 คน ปัจจุบัน ว่ากันว่าสมาชิกของสมาคมนี้ก่อร่างสร้างตัวเป็นตระกูลมั่งคั่ง เป็นเจ้าเศรษฐกิจ มีอิทธิพลไพศาลของโลก เช่นตระกูล Harriman, Rockefeller, Payne, Davison นอกจากนี้ยังแทรกซึมไปทุกวงการของ สังคมอเมริกัน เช่น รัฐบาล นักกฏหมาย นักการเมือง สื่อสารมวลชน การศึกษา ธนาคาร นักธุรกิจ การค้า อุตสาหกรรม สำนักพิมพ์ คริสตจักร ในตำแหน่งบริหารอันดับสูง ทำการกำหนดนโยบาย เป้าหมาย กิจกรรมทุกอย่าง แม้กระทั่งชื่อจริงของสมาชิก จะถูกปกปิดเป็นความลับสุดยอด ว่ากันว่าองค์กร CIA ถูกสมาคมนี้ชักใยอยู่เบื้องหลัง และบุคคลสำคัญในปัจจุบันที่เปิดเผยตัวได้ คือ อดีตประธานาธิบดีอเมริกา จอร์จ บุช เขาเป็นสมาชิกของสมาคม หัวกระโหลกไขว้ และเป็นผู้มีบทบาทสำคัญใน CFR




อันดับ 9 Freemasonry

องค์กร ฟรีเมสัน เป็นองค์กรภราดรภาพที่มีที่มาของเบื้องหลังอันลึกลับตั้งแต่ราวปลายคริสต์ ศตวรรษที่ 16 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 เป้าหมายแรกของพวกฟรีเมสันคือการต่อสู้กับศาสนาคริสต์ หลังจากนั้น เป้าหมายของพวกนี้ก็เปลี่ยนมาเป็นการต่อสู้กับทุก นอกจากนั้นแล้ว พวกนี้ยังได้ใช้เครื่องหมายใหม่เป็นรูปสามเหลี่ยมและวงเวียนปลายแหลมสองด้าน เป็นสัญลักษณ์อีกด้วย แหล่งพบปะหรือที่เรียกกันว่า “ลอดจ์” (lodge) แห่งแรกของคนพวกนี้ถูก ตั้งขึ้นในอังกฤษโดยใช้คำขวัญใหม่ว่า “เสรีภาพ ภราดรภาพและเสมอภาค” การเข้าเป็นสมาชิกฟรีเมสันส์จะมีกฎระเบียบที่ เข้มงวดมาก จะต้องเป็นชายที่มีความเป็นอิสระ ไม่ผูกพัน, เชื่อในความมีตัวตนของพระผู้เป็นเจ้า (จะ พระเจ้าตามความเชื่อของชาวคริสต์หรือศาสนาอื่นไม่ก็ได้) มีอายุไม่ตํ่ากว่า 18 ปี ต้องมีจิตใจดีงาม มีคุณธรรมและจริยธรรม และข้อสุดท้ายก็คือ จะต้องมีชาติกำเนิดที่เป็นไท ไม่เคยตกเป็นทาส และ ต้องผ่านพิธีกรรมลับ หากใครก็ตามที่แอบไปได้เห็นการกระทำพิธีกรรมลับอันนี้ ก็จะต้องถูก ให้เข้าเป็นสมาชิกของฟรีเมสันส์ องค์กร ฟรีเมสันในปัจจุบันมีด้วยกันหลายรูปหลายแบบในประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยมีสมาชิกประมาณ 5 ล้านคนที่รวมทั้งเกือบ 2 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา และราว 480,000 คนในอังกฤษ, สกอตแลนด์ และ ไอร์แลนด์)เชื่อกันว่าองค์การนี้ได้เติบโต อย่างรวดเร็ว มีสมาชิกกระจายอยู่ในทุกวงการ เช่น ประธานาธิบดีเป็น รัฐมนตรี ผู้พิพากษาศาลสูง วุฒิสมาชิก ผู้ว่าการรัฐ ฯลฯ คน ระดับโลกที่ประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกขององค์กรลับตั้งแต่เด็กๆ องค์กรเหล่านี้รับสมาชิกยากมากจริงๆ แต่เมื่อรับไปแล้ว สมาชิกก็จะเขยิบขึ้นเป็นคนระดับโลก เดินทางมาไหนไปประเทศใด จะมีมือที่มองไม่เห็นคอยจัดการอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง เมื่อปฏิบัติ การงานสิ่งใด ก็จะมีมือที่มองไม่เห็นคอยจำกัดศัตรูเพื่อให้ท่านใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น




อันดับ 8 Rosicrucians

โรสิครูเซี่ยน เป็นศาสนศาสตร์สมาคมลับที่ก่อตั้งขึ้นประมาณศศวรรษที่ 16 โดย คริสเตียน โรเซนครูสทธ์(Chrisan Rosenkreuz) ชาวเยอรมัน ที่ถือหลักคำสอน “ความจริงลึกลับของอดีตกาล” มีเอกสารสามชุดเผนแพร่คือ Fama Fraternitatis Rosae Crucis(ค.ศ.1614), Confessio Fraternitatis(ค.ศ.1615), , and The Chymical Wedding (ปี ค.ศ.1616) เอกสารเหล่านี้เผยแพร่อย่างกว้างขวางและมีอิทธิพลต่อประวัติศาตร์

เนื่องด้วยเนื้อหาบอกเรื่องราวลึกลับการศึกษาวิถีแบบโบราณ การศึกษา ภาษาคับบาลายุคโบราณ จิต วิญญาณและเทคนิคของการเล่นแร่แปรธาตุ เพื่อความมั่งคั่งโดยสามารถแปรธาตุโลหะทั่วไปให้เป็นธาตุทองคำได้ ที่ต่อมาสมาชิกของสมาคมนี้ก็กลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ และมีอิทธิพลในยุโรปในหลายสาขา และการเมืองของยุโรป และมีความเกี่ยวข้องกับฟรีเมสัน เพราะแนวคิดบางส่วนของโรซิครูเซียนถูกนำไปใช้ร่วมกับแนวคิดของฟรีเมสัน นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงกับลัทธิโปรเตสแตนต์ และขยายไปทั่วโลกในเวลาต่อมา ......... สัญลักษณ์ ของสมาคม คือ ไม้กางเขน และดอกกุหลาบซึ่งอยู่ตรงกลางไม้กางเขน ว่ากันว่าชาวเยอรมันเป็นผู้นำอย่างพระเจ้าไกเซอร์ และฮิตเลอร์เคยเป็นสมาชิกในองค์กรนี้ด้วย




อันดับ 7 Ordo Templis Orientis

ออโด เทมพลี โอเรี่ยนติส เป็นองค์กรศาสนาก่อตั้งต้นศตวรรษที่ 20 โดยอเลสเตอร์ โครวลีย์ (Aleister Crowley)ชาวอังกฤษ องค์กรนี้มีเอี่ยวกับฟรีเมนสัน มีเป้าหมายคือต้องการให้องค์กรที่ร่างกฎหมายในองค์กรมาใช้เป็นศูนย์กลางหลัก และเป็นศาสนาใหม่สำหรับยุคใหม่ โดยสมาชิกกลุ่มพิธีกรรมการแต่งตัวและพิธีเป็นของตัวเอง และว่ากันว่าพิธีกรรมเหล่านี้ลึกลับ มนต์ดำ กามราคะ ฯลฯ ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 3000 คนทั่วโลก และหลายคนบอกว่าเป็นกลุ่มลัทธิซาตานสมัยใหม่




อันดับ 6Hermetic Order of The Golden Dawn

เป็น ลัทธิมนต์ดำที่รุ่งเรืองมากใน ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เป็นศูนย์รวมของจิตวิญญาณและเคยเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีอิทธิพล ใหญ่ที่สุดในโลกตะวันตกมาแล้ว ก่อตั้งในปี ค. ศ.1888 โดยคนสามคน ซึ่งก็คือ William Wynn Westcott , William Robert Woodman และ MacGregor และ สามคนนี้เป็นมันสมองของ Free Manson (สรุปคือกลุ่ม ฟรีเมนสันมีเกี่ยวทุกงาน)

กลุ่ม นี้มีจุดประสงค์คือการสอนปรัชญาลึกลับและพัฒนาบุคลากรให้เข้าใจหลัก โหราศาสตร์,การทำนายต่างๆ กลุ่มนี้มีความพยายามรวบรวมพิธีกรรมและหลักปรัชญาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยซึ่ง ทำให้เกิดอิทธพลอย่างมากต่อชาวตะวันตกในช่วงระยะเวลานั้น โดยบุคคลที่มีชื่อเสียงในกลุ่มนี้ก็มีA.E.Waite (ผู้กำเนิดไพ่ทา โรต์ ) นอกจากนี้ยังมีผู้กวี, นักประพันธ์, นักเขียนบทละคร, นักแสดงที่มีชื่อเสียงมากมายที่เป้นสมาชิกกลุ่มนี้ ซึ่งหมายความว่ากลุ่มนี้มีอิทธพลในวงการศิลปะและวัฒนธรรมนั้นเอง กลุ่ม Golden Dawn นี้ ได้ปิดฉากลงในปี1914 เพราะสมาชิกร่อยหรอและหมดความ สนใจลง รวมระยะเวลาของลัทธินี้เป็นเวลา 26ปี แต่กระนั้นก็มีการฟื้นฟูลัทธินี้อยู่ในช่วงศตวรรษที่ 19 เป็นองค์การทาง ศาสนาแล้ว,แม้จะยังมีการสอนเรื่องไพ่อยู่ แต่ก็อิงไปทางศาสนาอยู่มากจนถึงปัจจุบัน




อันดับ 5 The Knights Templar

อัศวิน เทมพลาร์ หรือชื่อเต็มคือ(full name: The United Religious, Military and Masonic Orders of the Temple and of St John of Jerusalem, Palestine, Rhodes and Malta) เป็นกลุ่มอัศวินศาสนาคริสเตียนที่มีบทบาทในสงครามครูเสด ก่อตั้งเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 12 ในปี 1119 Hughes de Payens ชนชั้นสูงจากฝรั่งเศส พร้อมกับอัศวินผู้ติดตามอีก 8 คน

จุดมุ่งหมายคือปกป้องผู้แสวงบุญในดินแดนศักดิ์สิทธิ และ กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่สร้างระบบธนาคาร ภายหลังมี ตำนานต่างๆ ที่เกิดจากกลุ่มนี้ รวมไปถึงกลุ่มนี้ค้นพบอะไรของวิเศษบางอย่างที่สามารถเปลี่ยนโลกได้(ข่าวลือ บอกว่าอาจ เป็น***บแห่งพันธสัญญา ที่โมเสสใช้ติดต่อกับพระเจ้า บางตำนานก็ว่า ชิ้นส่วนของไม้กางเขนที่ใช้ตรึงพระเยซู บางตำนานก็กล่าวว่าในนั้น เก็บเอกสารสำคัญบางอย่างที่มีมาตั้งแต่สมัยพระเยซู) แม้จะสร้างผลงานมากมาย แต่ในระยะแรกกลุ่มอัศวินนี้ใช้ชีวิตอย่างสมถะ ประทังชีวิตด้วยของบริจาค จึงได้รับการขนานนามว่า อัศวินผู้ยากไร้ จนกระทั้ง 9 ปีต่อมา กลุ่มนี้สร้างชื่อเสียงหลายครั้ง จนมีผู้บริจาคเงินทองมากมายอีกทั้งมีกิจการหลายแห่ง มีดินแดนจนแทบจะครองยุโรปได้ คนชนชั้นสูงชาวยุโรปหลายคนยังส่งลูกหลานของตัวเองให้เข้าร่วมกลุ่มด้วย ทำให้กลุ่มนี้เติบโตอย่างรวดเร็วจนมีอำนาจนอกเหนือกฎหมาย แต่แล้วจุดตกต่ำของกลุ่มนี้ก็มาถึง เมื่อกลุ่มอัศวินนี้มีธุรกิจกู้ยืมเงิน มีลูกค้ามากู้ยืมเงินเพื่อไปทำสงครามมากมาย หนึ่งในนั้นเป็นพระราชา และเมื่อทำสงครามพ่ายแพ้พวกเขาไม่มีเงินมาจ่ายหนี้ เลยวางแผนใส่ร้ายกลุ่มอัศวินนี้ว่าเป็นพวกนอกรีต บูชาปีศาจบาโฟเมต และสั่งประหาร และยึดทรัพย์สิน ผู้นำอัศวินถูกเผาทั้งเป็น จนกลุ่มอัศวินนี้ล้มสลายในที่สุด ถึงแม้อัศวินเทมพลาร์จะล่มสลายลง แต่ยังคงทิ้งปริศนาเอาไว้หลายอย่าง เช่น เกิดอะไรขึ้นกับสมาชิกที่ยังหลงเหลือในยุโรป ทรัพย์สินของอัศวินเทมพลาร์หายไปใหน ในปัจจุบันมีตำนาน เล่าลือของพวกอัศวินเทมพลาร์อยู่ทั่วไปว่ากันว่าพวกเขาได้แทรกซึมไปทั่ว ราชสหอาณาจักรอังกฤษ และมีสาขา องค์กรแตกแขนงซึ่งส่วนใหญ่จุดประสงค์คือช่วยเหลือมนุษย์ หนึ่งในนั้นคือ สมาคม Freemasonry ที่ รับธรรมเนียมปฏิบัติและพิธีกรรมจากกลุ่มฮัศวิน จนกระทั้งกลายเป็น ปริศนายอดฮิตที่มักมีคนนำไปแต่งนิยายหรือภาพยนตร์เสมอ




อันดับ 4 Illuminati

สมาคมอิลลูมิ นาติ มาจากภาษาลาติน แปลว่า การรู้แจ้ง เป็นอีกหนึ่งสมาคมที่อยู่เบื้องหลังความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถูกเชื่อมโยงกับการปฏิวัติโดยเฉพาะอเมริกา ฝรั่งเศส รัสเซีย และไทย สมาคมนี้ก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 1776 (ปีเดียวกันกับที่อเมริกาประกาศอิสรภาพ)ในเมืองอินกอลสตาดท์ (บาวาเรียตอนบน) โดยอดัม ไวส์ฮอปต์ (Adam Weishaupt) ซึ่งเป็นชาวเยอรมัน(เกิดในปี ค.ศ.1748 และ เสียชีวิตในปี) ซึ่งเป็นผู้เลื่อมใสในคณะเยซูอิต และเป็นศาสตราจารย์ด้านประมวลกฎหมายโรมันเกี่ยวกับศาสนาที่เป็นฆราวาสคนแรก ที่มหาวิทยาลัยอินกอลสตาดท์ ต่อมาสมาคมนี้ได้มีอิทธพลต่อปัญญาชนและกฎหมาย มีสมาชิกหลายคนเป็นนักการเมืองที่เจริญหน้าที่การงาน แนวคิดและจุด ประสงค์นิกายนี้ค่อนข้างน่ากลัวนิดหนึ่ง คือกลุ่มนี้ยึดถือมั่น “การจัดระเบียบโลกใหม่” การกำกับดูแลปกครองประเทศต่างๆทั่วโลก ผ่านรัฐบาลโลกอิสระ โดยยึดถือกฎเดียวกัน ยึดถือ ศาสนายูดาย โดยมีกลุ่มชนชาติยิวเป็นกำลังหลัก มีแนว บางทฤษฎีก็เชื่อว่า มีความต้องการที่จะให้ประเทศอิสราเอลเป็นเมืองหลวง Illuminati เป็นกลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังอำนาจอย่างลับๆ โดยการควบคุมเหตุการณ์ในโลกทุกวันนี้ผ่านทางรัฐบาลและกลุ่มบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์หลายเหตุการณ์ไม่ว่าจะเป็น การแทรกซึมและโค่นล้มรัฐบาลของหลายๆรัฐในยุโรป การปฎิวัติที่ฝรั่งเศส และรัสเซีย จัดฉากและก่อสงครามโลกครั้งที่ 2 โดย เป็นผู้สนับสนุนเงินทั้งหมดให้ฮิตเลอร์ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวไป 6 ล้านคน, ก่อตั้ง UN หรือสหประชาชาติ IMF และ World Bank หรือธนาคารโลก และองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ขึ้นเพื่อเดินหมากตัวต่อไป……ยึดครองโลก

สำหรับ ในปัจจุบัน หลายคนเชื่อว่าสมาคมนี้ยังคงเป็นเงาที่ดำเนินการและจัดการนโยบายรัฐบาลของ โลก ครอบคลุมถึงการแทรกซึมควบคุมทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง การใช้อำนาจอย่างลับๆ โดยการควบคุมเหตุการณ์ในโลกทุกวันนี้ผ่านทางรัฐบาลและกลุ่มบุคคลอื่นๆใน ประเทศต่างๆ ทั่วโลกด้วย และคำว่า อิลลูมินาติ มักจะถูกใช้อ้างถึง New World Order (NWO) นักทฤษฎีสมคบคิดจำนวนมากเชื่อว่าอิลลูมินาติอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่จะนำ ไปสู่การสถาปนาลัทธิดังกล่าว และข้อเท็จจริงที่สร้างความสับสนมากขึ้นไปอีกก็คือ ปัจจุบันมีกลุ่มภราดรหลายกลุ่มที่มีคำว่า "อิลลูมินาติ" อยู่ในชื่อกลุ่มด้วย




อันดับ 3 The Bilderberg Group

หาก Illuminati อยู่เบื้องหลังควบคุมการทหาร และการสงครามทั้งหมด The Bilderberg Groupd ก็คือสมาคมที่อยู่เบื้องหลังการเงิน เศรษฐกิจและที่ปรึกษาและการวางแผนระดับสูง และควบคุมนโยบายหลักๆ ของรัฐบาลของ โลก บิล เดอร์เบิร์กเป็นอีกสมาคมหนึ่งที่อยู่คู่กับฟรีเมสัน ในยุค 1954 ก่อตั้งโดย Dr. Joseph Retinger ชาวยิวเจ้าเก่า โดย การประชุมนัดแรกนัดกันที่โรงแรม Hotel de Bilderberg เมืองอูสเตอร์บีก ฮอลแลนด์ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อกลุ่ม กลุ่มนี้เป็นสมาคมลับของชนชั้นสูง สำหรับเหล่ามหาเศรษฐี ในโลกแห่งการทำธุรกิจและธนาคารข้ามชาติ, วงจรการ เมือง และรวมถึงประชาชนทั่วไปที่เป็นมืออาชีพ โดย กลุ่ม Bilderberg จะทำการประชุมกันปีละครั้ง.. อย่างเปิดเผย โดยจะมีสมาชิกเข้าร่วมประชุม 100 ที่นั่ง ทุก 1 ปีที่เจอกัน คนเหล่านี้มาด้วยคำถามซ้ำๆกันทุกปีว่า “เรา จะเปลี่ยนโลก นี้ ให้เป็นอย่างที่พวกเรา(ชาวยิว)อยากให้เป็นไปได้อย่างไร ? ในฐานะที่เรา(ชาวยิว)เป็นรัฐบาลโลกที่แท้จริง”

พอประชุมเสร็จก็มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการว่าประชุมอะไรกันไปบ้าง แต่จะไม่พูดถึงวาระลับซ่อนเร้นที่รู้กันเฉพาะในหมู่สมาชิกเท่านั้น ว่า กันว่ากลุ่มนี้เกี่ยว ข้องกับ Illuminati และฟรีเมนสัน ในเหตุการณ์ถล่มอัฟกานิสถานและอิรัก ความพยายามในการสกัดกั้นจีนความรุนแรงในบางจังหวัดของบางประเทศ ฯลฯ จุดมุ่งหมายคือเพื่อโลกเสรีไม่เอาคอมมิวนิสต์ ปัจจุบัน The Bilderberg Group มีสมาชิกมากมาย ส่วนใหญ่เป็นผู้มีอำนาจจากภาคธุรกิจและการเมือง เช่น สมาชิกกลุ่มนี้ทั้งที่ตายไปแล้วและที่ยังมีชีวิตอยู่ เช่น เฮนรี คิสซิงเจอร์, บิลล์ เกตส์, เดน นิส เฮียเลย์ (อดีตผู้นําพรรคแรงงานและ รมว.ความมั่นคงของอังกฤษ), เดวิด ร็อคกีเฟลเลอร์, เจ้าชายเบิร์นฮาร์ด (พระสวามีของราชินีจูเลียนา แห่งเนเธอร์แลนด์), โรนัลด์ รัมส์เฟลด์ ฯลฯ.. นอกจากนี้ยังมี Lord Rothschild และ Laurance Rockefeller 2 ใน 100 บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เข้าร่วมวงไพบูลย์ด้วยอีกคน(มีข่าวลือด้วยนะว่าทักษิณก็เป็นสมาชิกกลุ่ม นี้........)




อันดับ 2 The Priory of Sion

ไพร เออรี ออฟไซออน หรือ สำนักศาสนาแห่งไซออน เป็นองค์กรลับสมาคมชายล้วนที่ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1956 โดยปิแอร์ ปลองตาร์ด (Pierre Plantard) ในเมืองอานเนอมาซ ทางตะวันออกของฝรั่งเศสโดยเขาได้ได้แต่งประวัติศาสตร์ขององค์กรขึ้นมา โดยอ้างว่ามันเป็นสมาคมลับที่ก่อตั้งขึ้นในกรุงเยรูซาเล็มเมื่อปี ค.ศ. 1099 มีหน้าที่ปกป้องสายเลือดของราชวงศ์เมโรแว็งเชียง เพื่ออ้างสิทธิในราชบัลลังก์ของฝรั่งเศส จนหลายคนเชื่อและแล้วก็แพร่หลายไปทั่วยุโรป ผู้คนมากมายที่เชื่อว่าไพรออรี ออฟ ไซออนเป็นสมาคมลับในยุคเก่าซึ่งได้ปกปิดความลับที่จะล้มล้างเอาไว้ เช่น ต้นกำเนิดพระเยซู, จอกศักดิ์สิทธิ

ส่วน สมาชิกคนสำคัญของสมาคมนี้ถูกกล่าวถึงใน เลส์ โดสซิเยส์เซอเกรส์ (Les Dossiers Secrets) ได้แสดงรายชื่อของเหล่าประมุข ของสมาคมลับ เดอะไพรเออรี่ออฟไซออน ซึ่งมีทั้ง เลโอนาร์โด ดาวินชี, ซานโดร บอตตีเชลลี, โรเบิร์ต บอยล์, เซอร์ไอแซก นิวตัน, วีกเตอร์ อูโก ฯลฯ(ภายหลังมีคนบอกว่ามันเป็นของปลอม) เรื่อง ราวของลัทธินี้ถูกนำไปแต่งนิยายมากมาย ในฐานะทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด ประวัติศาสตร์เทียม และการสับสนอื่นๆ กลายมาเป็น กระแสหลักโด่งดังในหนังสือชื่อ The Holy Blood and the Holy Grail ในปี ค.ศ. 1982 และต่อมาในนวนิยายสืบสวนชื่อรหัสลับดาวินชี





อันดับ 1 Opus Dei

โอปุสเดอีเป็นภาษา ละติน แปลว่า งานของพระเจ้า,ผลงานของพระเจ้า หรือ ”คณะสงฆ์แห่ง กางเขนศักดิ์สิทธิ์” เป็นองค์กรคาทอลิก อนุรักษ์นิยม ตั้งขึ้นในวันที่ 2 ตุลาคม 1928 โดยนักบวชสเปน โฆเซ่ มาเรียเอสคิวบา(Josemaría Escrivá de Balaguer) ที่ถูกประกาศความศักดิ์สิทธิ์เป็นนักบุญโดยสมเด็จพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ผู้ล่วงลับ จุดประสงค์ขององค์กรนี้คือช่วยเหลือ อุดหนุน สนับสนุน ส่งเสริม คณะผู้เผยแผ่คำสอนของพระเยซูเจ้าของคริสตจักรและโบสถ์ โดยส่วนหนึ่งขยายความถึงการร่วมงานกับกลุ่มพระนิกายเยซูอิ เรื่องราว ขององค์กรนี้โด่งดังจาก หนังสือ Da vinci code ของแดน บราวน์ ที่กล่าวถึงนักบวชบำเพ็ญทุกกริยา ซึ่งความจริงแล้วองค์กรนี้ไม่มีการประกอบพิธีกรรมหรือคลั่งศาสนาแต่อย่างใด เพราะสมาชิกส่วนใหญ่ขององค์กร เป็นสามัญชนที่ชื่อในพระคริสต์และพร้อมที่จะเผยแผ่ความรักของพระองค์ออกไปใน วงกว้างเท่านั้น นอกจากนั้นหนังสือ ของบราวน์ยังผูกเรื่องให้บิช็อปโอปุส เดอีผู้หนึ่ง สั่งการให้นักบวช (monk) โอปุส เดลี ไปกระทำฆาตกรรม ผูกเรื่องให้บิช็อปโอปุส เดอีผู้หนึ่ง สั่งการให้นักบวช (monk) โอปุส เดลี ไปกระทำฆาตกรรม ทั้งนี้ในหนังสือเล่มนี้ได้ แม้ความจริงแล้วองค์การนี้มิได้มีนักบวชประเภทนี้แต่อย่างใด หนังสือ แดน บราวน์ยังกล่าวไปอีกว่า องค์กรนี้อยู่เบื้องหลังและมีอิทธิพลต่อการประชุมลับของบรรดาพระคาร์ดินัล เพื่อคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาองค์ต่อไป ซึ่งความจริงแล้วในจำนวนพระคาร์ดินัล 115 คน ที่จะใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งโป๊ป มีเพียง 2 คน เท่านั้นซึ่งนับเป็นสมาชิกของโอปุส เดอี

แต่ ที่แน่ๆ ปัจจุบันโอปุสเดอีมีจำนวนสมาชิกมากกว่า 85000 คนใน 60 ประเทศ จนได้รับสมญานามว่า "ออคโตปุส (ปลาหมึก) ของพระเจ้า" มีศูนย์กลางการทำงานที่โรม ในปี1982 เป็นนิกายที่ขึ้นตรงกับพระราชาคณะชั้นสูง ภายใต้พระลัญจกรพระสันตะปาปา สามารถเข้าถึงพระสันตปาปาจอห์นปอลที่ 2 ได้อย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ อีกทั้งได้รับความสนับสนุนและการส่งเสริมจากพระคาร์ดินัลทรงอิทธิพลจำนวนมาก พระและฆราวาสที่เป็นสมาชิกวงในของโอปุส เดอีจำนวนมาก สมาชิกในองค์กรได้ครองตำแหน่งสูงๆ ในระบบราชการของสำนักวาติกัน ทั้งนี้รวมถึง โจอาควิน นาวาร์โร-วัลส์ หัวหน้าโฆษกสำนักวาติกัน จึงไม่น่าแปลกอะไรที่หลายฝ่ายเชื่อว่าโอปุส เดอี เป็นองค์การนี้เป็นคริสตจักรอนุรักษ์นิยมสุดขั้ว มีอำนาจบารมี ซึ่งซ้อนซ่อนอยู่ภายใน โดยทำตัวลึกลับและคอยบงการชักใย คริสตจักรคาทอลิกอีกชั้นหนึ่ง



ระบบ/เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย ของมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา

  • ต้องขออภัยอย่างยิ่ง ที่ไ้ด้นำข้อความที่น่าหวั่นไหว มาให้รับทราบท่ามกลางสถานการณ์อุทกภัยที่ยังคงเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
แต่ ในขณะวิกฤติ ผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลายย่อมไม่ละทิ้งโอกาสในการเรียนรู้ เพื่อให้เกิดสติ และใช้เป็นแนวทางในการพิจารณาถึงสิ่งที่กำลังประสบอยู่ตรงหน้า ว่าควรจะวางจิตอย่างไร หากมีหายนะภัยใหญ่ ๆ เกิดขึ้น

วันข้างหน้า จะเป็นเช่นไร ไม่มีใครสามารถบอกได้อย่างแน่นอน

ภัยพิบัติครั้งใหญ่ จะเกิดขึ้นเมื่อไร? มากน้อยแค่ไหน? ไม่มีใครบอกได้อย่างแน่นอน

อย่าไปรอ อย่าไปคาดหวัง อย่าไปหวาดกลัวถึงหายนะภัยในวันข้่างหน้า และอย่าประมาทว่า....เรายังมีเวลาอีกยาวนาน

เพราะเวลาที่ยังเหลืออยู่ในสภาวะของความสงบสุข ความร่มเย็นของธรรมชาติ จะยังมีอยู่มากน้อยแค่ไหน ไม่มีใครรู้เช่นกัน

แต่ วันนี้ ในท่ามกลางความวุ่นวายนานับประการ ควรให้โอกาสกับตัวเองในการที่จะสร้างความดี เพียรปฏิบัติธรรม เรียนรู้กฏธรรมชาติตามความเป็นจริง เข้าใจกลไกของจักรวาล เรียนรู้ และละการยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า ละวางอัตตาตัวตน และเพียรปฏิบัติธรรมไม่ว่าจะเป็นในแนวทางใด ๆ ก็ตาม ที่จะปล่อยวางได้ ขอให้ทำเถิด

เพราะสิ่งนี้เท่านั้นที่จะติดตัวท่านไป และจะทำให้มีสติ เกิดปัญญา เมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ใด ๆ ก็ตาม

จะเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยท่านได้ในยามเกิดภัยพิบัติขึ้น

ภัย พิบัติไม่ว่าจะเกิดขึ้นในระดับไหนก็ตาม ย่อมสร้างความสูญเสีย ความเศร้าโศกเสียใจ และความทุกข์....จากการพลัดพรากจากของรักของชอบใจ ให้กับผู้ประสบภัยด้วยกันทั้งนั้น

ไม่มีใครอยากให้เกิด ไม่มีใครอยากสูญเสีย ไม่มีใครอยากให้เป็นเช่นนี้

เพียง แต่ว่า ไม่มีใครสามารถไปห้ามปรามธรรมชาติที่กำลังแปรปรวนเหล่านี้ได้ และยิ่งนับวัน สิ่งที่ไม่เคยคาดหมายก็ปรากฏให้เห็นมากขึ้นทุกขณะในความรุนแรงของธรรมชาติ ทั้งดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งมิใช่เพียงแค่ประเทศใด ประเทศหนึ่งเท่านั้น

แต่ได้เกิดความแปรปรวนอย่างมากมายไปทั่วโลก ซึ่งก็กำลังเผชิญกับภัยทางธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน

วันนี้ เราควรต้องตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลง และทวีความรุนแรงของธรรมชาติที่เพิ่มมากขึ้น มากขึ้น อย่างต่อเนื่อง

เพื่อที่จะได้เตรียมพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ

แต่มิได้มุ่งหมายให้ตื่นกลัวในพิบัติภัยทั้งหลายเหล่านั้น

หากพิบัติภัยไม่เกิด... นั่นเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่ทุกคนต้องการ

แต่ความประมาทที่คิดว่า...คงไม่เกิดอะไร? จะทำให้เมื่อเผชิญกับหายนะภัย จะตั้งสติไม่ได้และจะเกิดความทุกข์อย่างมากมายนั่นเอง

จึงควรเรียนรู้ และเข้าใจธรรมชาติตามความเป็นจริง รู้ที่มาที่ไป ว่าเหตุใดธรรมชาติจึงแปรปรวน

และใช้ธรรมะ...เป็นธรรมโอสถ เพื่อที่จะหล่อเลี้ยง และเยียวยาจิตใจ ยามเผชิญกับทุกข์ใด ๆ ก็ตาม

เพราะจะทำให้มีสติ และเกิดปัญญา และเผชิญหน้ากับทุกปัญหา ในทุกวิกฤตการณ์ด้วยความเข้าใจ

การเป็นผู้ให้...ก็จะทำได้อย่างเต็มกำลัง


เมื่อนั้นท่านก็จะคิดว่า

เราจะช่วยอะไร...ใครได้บ้าง

แทนที่จะเป็นผู้รอคอยว่า

ใครจะช่วยอะไร...เราได้บ้าง

ใน เมื่อความทุำกข์เกิดจากการยึดมั่นถือมั่น เห็นว่านั่นเป็นเรา นั่นเป็นของเรา เมื่อเกิดความสูญเสียสิ่งที่เป็นของของเรา ก็ย่อมมีความทุกข์เป็นธรรมดา

เพราะไปฝากใจไว้กับร่างกาย และทรัพย์สิน เมื่อมีการสูญเสีย มีการแปรปรวนไป จึงต้องเกิดความทุกข์มากมายนั่นเอง

คงต้องหันกลับมาถามตัวเองในวันนี้ว่า..... เราควรฝากทุกสิ่งทุกอย่างไว้กับอะไรดี?

จึงจะปลอดภัย และไม่ทำให้เกิดความทุกข์ เมื่อต้องเผชิญกับความสูญเสียเหล่านั้น


กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

17 TUNED/Marijuana Instrumental - AMAZING

17 tuned/Dark Psychedelic (THE BEST PSY SONG=})

พี่mead

ปีนี้น้องน้ำมาเยอะเป็นพิเศษเลย แต่ก็เป็นนิมิตรหมายที่ดีครับ
ในทางโหราศาสตร์เค้าบอกไว้เหมือนกันว่า
น้ำคือเงิน มีมากยิ่งดี ไม่ต้องหาน้ำพุมาเสริมอีก
ประเทศไทยจะโชติช่วงชัชวาล มาทุกทิศทุกทางเหมือนน้ำครับ
น้ำก้อนใหญ่จะนำพาความโชติช่วงที่ยิ่งใหญ่มาให้....

อดทนกันอีกนิด รอส่งน้องน้ำผ่านลงทะเลก่อนนะครับ
เพราะช่วงเวลาที่สำคัญกำลังจะมาถึงแล้วเหมือนกัน
นอกจากมีการเคลื่อนไหวที่ขยายวงกว้างออกไปเกิดขึ้นแล้ว
ก็มีข่าวว่าจีนและรัสเซียกำลังกดดันสหรัฐอเมริกาให้รีบประกาศ "NESARA"
และ"การเปิดเผยข้อมูลอย่างเต็มรูปแบบ" (ซะที)
มันคงไม่ใช่เรื่องโจ๊ก หรือนิยายแฟนตาซี อีกแล้วนะครับ
เป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจมาก เราจับตาดูประเทศแคนนาดาไว้ครับ

Golden Age กำลังเกิดขึ้น....และเหล่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของมัน
Old World Order กำลังจะลงจากเวทีแล้ว

♥ สันติภาพ, ความรัก , เสรีภาพ,
ความอุดมสมบูรณ์ และความสุขของทุกคน 100% ♥