กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย (เขากะลา)

วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ระบบ / ธรรมชาติ

ธรรมะ หรือธรรมชาติ เป็นสัจจะธรรม เป็นกฎของธรรมชาติ เป็นหนึ่งเดียวไม่มีการแบ่งแยกใด ๆ และมีอยู่ทั่วไปในทุก ๆ จักรวาล

อยู่ที่ว่า ใครจะมีปัญญามองเห็น หรือเข้าใจในกฏธรรมชาติได้มากน้อยแค่ไหน

ลำพัง ปัญญาของสัตว์โลก ที่จะเห็นเอง รู้เอง เข้าใจได้เองในกฏธรรมชาตินั้นยากยิ่งนัก นอกจากจะมีผู้รู้ ได้ค้นพบสัจธรรม ได้ตรัสรู้ หรือรู้แจ้งในกฏธรรมชาติแล้วมาสั่งสอนเวไนยสัตว์ให้ได้รู้ตาม เห็นตาม จึงจะพอเห็นแนวทางของการที่จะปล่อยวาง ละการยึดมั่นถือมั่นได้

และผู้รู้ ผู้ที่เข้าใจในกฎธรรมชาตินี้ ก็มิได้มีแต่โลกเราเท่านั้น ที่สามารถรู้ สามารถเห็น สามารถเข้าใจได้

โลก อื่น ๆ ดวงดาวอื่น ที่มีความเจริญทางจิต ก็ย่อมมีผู้รู้ที่สามารถค้นพบกฏธรรมชาตินี้เช่นกัน แล้วสั่งสอนให้มนุษย์ในดวงดาวนั้น ได้รู้ตาม เห็นตาม เข้าใจในกลไกของธรรมชาติ และออกจากการยึดมั่นถือมั่นได้เช่นกัน แม้จะแตกต่างในรูปแบบ ตามแต่เหตุปัจจัยของดวงดาวนั้น ๆ

มีคำพูดที่ได้ยินกันอยู่เป็นประจำว่า พระพุทธเจ้ามีมากมาย มากกว่าเม็ดทรายในท้องมหาสมุทรทั้ง ๔

พระพุทธเจ้าที่มีอยู่มากมายกว่าเม็ดทรายในมหาสมุทรนั้น มีทั้งทรงตรัสรู้ผ่านมาแล้ว และยังทรงตรัสรู้อยู่ตลอดเวลาในขณะนี้ ในแต่ละสถานที่ ในแต่ละดวงดาว ในจักรวาลต่าง ๆ มากมาย และยังคงมีการสั่งสอนมนุษย์ในดวงดาวนั้น ๆ ให้เกิดปัญญาเห็นธรรมอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน

พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ตรัสรู้ในกฎเดียวกัน มีลักษณะเป็นไตรลักษณ์ คืออนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ซึ่งเป็นกฏของธรรมชาติ เป็นกฎของจักรวาล

ดัง นั้น ธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ และนำมาสั่งสอนนั้น จึงเป็นสัจจะธรรม เป็นกฎของธรรมชาติ ที่เน้นให้เข้าใจในความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่ได้เป็นตัวตน นั่นเอง

ดังที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้กล่าวไว้ในหัวข้อสัจจะธรรม กาลเวลาว่า
......

ธรรมะ นั้นคือสัจจะ อันได้แก่ความจริง ดังจะเรียกควบกันว่าสัจจะธรรม ธรรมะคือความจริง พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้สัจจะธรรม แล้วได้ทรงนำสัจจะธรรมที่ได้ตรัสรู้นั้นมาแสดงสั่งสอน สัจจะธรรมนี้เป็นสภาพที่มีอยู่ พระพุทธเจ้าผู้พระตถาคตจะตรัสรู้ หรือไม่ตรัสรู้ก็ตาม สัจจะธรรมก็มีอยู่ ดังที่ได้ตรัสไว้ว่า ธาตุนั้นมีอยู่ ตั้งอยู่ เป็นความตั้งอยู่แห่งธรรม ที่เรียกว่าธรรมฐิติ เป็นความกำหนดได้แห่งธรรมอันเรียกว่าธรรมนิยาม คือข้อที่สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ดั่งนี้ เมื่อพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้แล้ว จึงทรงนำมาแสดงสั่งสอน จำแนกแจกแจงกระทำให้ตื้น เพื่อให้เวไนยนิกร คือหมู่ชนที่พึงแนะนำได้ ได้รู้ได้เห็น ได้เข้าใจตามพระองค์ ว่าสังขารทั้งปวงไม่เที่ยง สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ดั่งนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น