กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย (เขากะลา)

วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2554

คำระบบ

คำระบบ มีมากมายหลายคำ แต่ละคำมีความหมายเพื่อหลอกให้อุปาทานที่หลงยึดในคำสมมุติเหล่านั้น งง .... !

เพราะคำที่ไม่เคยได้ยิน ก็เลยไม่ทันยึด เพราะอุปาทานกำลังงงอยู่ว่ามันหมายถึงอะไร?

พออุปาทานงง .... ก็ช่วงชิงด้วยปัญญา บันทึกเข้าไปใหม่ที่ประกอบด้วยปัญญา ไปแทนที่อวิชชาที่เห็นผิดนั่นเอง

เพราะว่าอุปาทาน มันหลงยึดแบบโง่ ๆ ตามอวิชชา มันยึดแบบตรงไปตรงมา อวิชชารู้มาอย่างไร มันยึดอย่างนั้น

เมื่อก่อนไม่รู้จักคำว่า....โง่

พอมีคนบอก มีการสมมุติ มีการรับรู้ สัญญาบันทึก แล้วอุปาทานยึดเกาะเรียบร้อยว่า โง่...หมายถึงอะไร

พอพูดว่า แกโง่

ขันธ์ ห้าส่งต่อมาทันที ตีคำสมมุตินี้ว่า โง่คือ หมายถึงปัญญาอ่อน ไม่ฉลาด ไม่ทันคน สมองทึบ แล้วแต่จะบันทึกความหมายไว้แค่ไหน

คำว่าแก ก็คือหมายถึงตัวเรา มันว่าตัวเรา

ถ้าพูดขึ้นลอย ๆ ... โง่
แม้ได้ยินก็ยังไม่ทุกข์ เพราะไม่มีการเอ่ยถึงใครเป็นผู้รับ

แต่ถ้าหันมาหาแล้วบอก.....แกโง่


มีผู้รับทันที อุปาทานไปรับปั๊บ ว่าหมายถึงเรา

หรือหากแค่หันมามองหน้าแล้วพูดว่า...โง่

ก็ตีความหมายได้ว่า หมายถึงเรา

เพราะมองเราแล้วพูดว่าโง่ นั่นคือว่าเราโง่ ตีความหมายที่สมมุติไว้ โง่คือ หมายถึงปัญญาอ่อน ไม่ฉลาด ไม่ทันคน สมองทึบ

ประมวลผลทันที มันว่าเราโง่

เจ็บปวดขึ้นมาทันที เป็นเรื่องในทันใด ทุกข์มากมายแค่คำเดียว

และนี่คือ การมีชั้นเดียว คือไม่มีสติรู้เท่าทันการปรุงแต่งตามการกระทบของขันธ์ห้า จึงอุปาทานว่า ความทุกข์นั้นเป็นของเรา

ซึ่งมีบุคคลมากมายที่ยังคงเผชิญอยู่ในชีวิตประจำวัน คือทุกข์....ทุกวัน

ก็คือไปรับทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในขันธ์ห้า ที่อุดมไปด้วยอวิชชา แล้วอุปาทานว่าเป็นเรา ทุกข์ของเรานั่นเอง

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น