กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย (เขากะลา)

วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2554


24 พฤษภาคม 2554 12:48 น.

"ยูเอฟโอ" ลอยอยู่กลางท้องฟ้า เหนือวิทยาลัยครูฉางชุน มณฑลจี๋หลิน เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา (ภาพเฟิ่งหวง)
เฟิ่ง หวง - ชาวจีนตะลึงงัน หลังพบ “ยูเอฟโอ” ลอยอยู่เหนือวิทยาลัยครูเมืองฉังชุน มณฑลจี๋หลิน ขณะที่พบอีกลำลอยอยู่บนท้องฟ้าเมืองเยียนไถ มณฑลซานตง ในช่วงเวลากลางคืน

สื่อจีนรายงาน (23 พ.ค.) ว่า พบวัตถุบินได้ หรือ “ยูเอฟโอ” บินลอยอยู่เหนืออาคารกีฬาของวิทยาลัยครู ในเมืองฉังชุน มณฑลจี๋หลิน ในช่วงเวลาบ่ายๆ ซึ่งทัศนวิสัยค่อนข้างดี โดยจานผีดังกล่าว ค่อยๆ เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ทำให้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ชาวเน็ตจีนบางคนมองว่าเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากแสงสะท้อนจากการหมุน วนของอากาศ ขณะที่บางฝ่ายมองว่าเป็นว่าวรูปร่างคล้ายยูเอฟโอที่ติดตั้งแบตเตอรี่ โทรศัพท์มือถือ และบ้างก็ชี้ว่า อาจเป็นเครื่องบินตรวจการณ์ไร้คนขับของสหรัฐฯ




นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา สื่อจีนรายงานว่า พบยานยูเอฟโอมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมลอยอยู่บนท้องฟ้า ณ เมืองเยียนไถ มณฑลซานตง ในช่วงเวลากลางคืน


นายโจว อี้ว์ผิง ชาวซานตงผู้เห็นเหตุการณ์เผยว่า “ช่วงตอนกลางคืน ผมยืนอยู่ด้านนอก แล้วเห็นแสงเป็นจุดๆ เรียงเป็นรูปสามเหลี่ยม ส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้า ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ในตอนแรก ผมคิดว่าเป็นเครื่องบิน แต่ทว่ามันไม่ได้ขยับเขยื้อน ผมจึงตัดสินใจถ่ายรูปเก็บไว้ แต่พอกดชัตเตอร์แล้วมีแสงแฟลชกะพริบ มันก็เริ่มขยับ ผมจึงถ่ายวิดีโอเก็บไว้”

โจวกล่าวเสริมว่า “มีบางคนบอกว่ามันเป็นว่าวที่ติดไฟ หรืออาจเป็นโคมลอย แต่ถ้าเป็นสองอย่างนี้มันก็น่าจะลอยสะเปะสะปะ ไร้ทิศทาง แต่เจ้าสิ่งนี้มันกลับบินตรงไปทางทิศตะวันตก”



ระบบ/ งานเรื่องของภัยพิบัติ

มนุษย์ต่างดาว ...ก็เป็นผู้รู้เรื่องของภัยพิบัติอีกกลุ่มหนึ่งเช่นกัน ที่มาทำหน้าที่เตรียมการเพื่อช่วยเหลือมนุษย์บนโลกใบนี้ แต่อาจจะแตกต่างไปบ้างตรงที่ มีทั้งกายละเอียด และยังมีกายเนื้อด้วย แต่ในขั้นปฏิบัติงานก็ต้องใช้กายมนุษย์โลกเป็นผู้ขับเคลื่อน เป็นผู้ปฏิบัติการสื่อสารกับมนุษย์ด้วยกัน เพราะมนุษย์ย่อมไว้ใจมนุษย์ด้วยกัน หากลงมาในรูปร่างของมนุษย์ต่างดาว ยากที่มนุษย์จะเข้าใจว่าเขามาเพื่อช่วยเหลือ

ดังนั้น จึงต้องเตรียมการจัดหากลุ่มบุคคลรองรับไว้ เพื่อส่งข้อมูลข่าวสารผ่านกลุ่มบุคคลเหล่านี้ที่ได้มีการวางไว้แล้ว ดังนั้นการเตรียมการจึงค่อนข้างซับซ้อน หลากหลาย เพราะต้องมีการฝึกหลายรูปแบบ ทั้งการปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าใจกฎของธรรมชาติ ฝึกสติ ฝึกสมาธิ เพื่อการปล่อยวาง ฝึกสื่อสารฯ เพื่อแยกข้อมูลที่มาจากต่างดาว และฝึกการประมวลพลังเพื่อรับรู้เทคโนโลยีไฮเทค ในรูปแบบพลังงานที่ใช้งานได้จริง ดังนั้น จึงต้องมีการเตรียมการฝึกล่วงหน้าหลายปี ก่อนที่จะเข้าสู่ระบบทำงานจริง

แต่ ทุกอย่างก็ไม่ได้แตกต่างไปจากกลุ่มอื่น ๆ ก็คือการทำงานเรื่องของภัยพิบัติเช่นเดียวกัน มีการเตรียมการเหมือนกัน และมีผู้รู้เรื่องของภัยพิบัติเป็นผู้ดำเนินการสื่อสารข้อมูลมาให้เหมือนกัน ดังนั้น จึงไม่ได้มีความแตกต่างกันในจุดมุ่งหมาย การที่แต่ละกลุ่มมาพบเจอ มาสนิทสนม มาช่วยเหลือซึ่งกันและกันในงานเกี่ยวกับภัยพิบัตินั้น จึงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง

ผู้ที่ทำงานเรื่องของภัยพิบัติ จึงต้องเปิดใจให้กว้าง มองให้เห็นในภาพรวม เพราะทุกกลุ่ม ทุกจุด การเตรียมการจะไม่มีผิด ไม่มีถูก จะไม่มีใครดีกว่าใคร จะไม่มีการเปรียบเทียบ เพราะเป็นงานคนละอย่าง คนละรูปแบบ

เหมือนเช่น เครื่องยนต์ ทุกชิ้นสำคัญหมด ลูกสูบ จานจ่าย เบรก คลัช ทุกอย่างสำคัญ แต่ถ้าไม่มีหัวเทียน รถก็วิ่งไม่ได้ หรือแม้กระทั่งน๊อต ถ้าไม่มีน๊อตยึดทุกอย่างเข้าด้วยกัน ก็หลุดเป็นชิ้น ๆ ใช้งานไม่ได้เท่าเทียมกัน ดังนั้น แม้แต่น๊อต ก็มีความสำคัญในงานของน๊อตเช่นกัน

การเตรียมการเรื่องภัยพิบัติก็ เช่นกัน จะมีความหลากหลาย จะมีการทำงานในรูปแบบที่ไม่เหมือนกันทั้งหมด เพียงแต่รับทราบไว้ว่ากลุ่มนี้เตรียมการเรื่องนี้ กลุ่มนี้ปฏิบัติอย่างนี้ กลุ่มนี้ช่วยเหลือด้านนี้ กลุ่มนี้สื่อสารด้านนี้ แล้วสิ่งที่ทุกกลุ่มดำเนินการเตรียมงานไว้จะมารวมกันเองเมื่อถึงเวลา

ก็ เป็นข้อมูลเพื่อให้มองเห็นภาพโดยรวมในมุมกว้างของเรื่องภัยพิบัติ ที่มนุษย์ต่างดาวได้สื่อสารข้อมูลมาให้ เพื่อที่เมื่อมีความเห็นถูกต้อง ก็จะลดการเปรียบเทียบว่า กลุ่มเราเตรียมการอย่างนี้ดีกว่ากลุ่มเขา กลุ่มนั้นสร้างสถานที่ใหญ่โตกว่ากลุ่มเรา กลุ่มเรามีคนมากกว่ากลุ่มเขา กลุ่มนั้นไม่เห็นเตรียมอะไรเลยรับข้อมูลอย่างเดียว กลุ่มนั้นฝึกอะไรไม่รู้จะรอดกันไหมเนี่ย

ถ้าเห็นผิด ความทุกข์ก็หาโอกาสหลอกกินได้ตลอดเวลา ถ้าเราเป็นโรงงานผลิตน๊อต เราก็ผลิตน๊อตของเราให้ดีที่สุด นั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ต้องไปสนใจว่าแล้วชิ้นส่วนตัวถังรถยนต์มันจะผลิตดีไหม ลูกสูบ เฟืองท้ายจะได้มาตรฐานหรือไม่ เพราะถึงห่วงไป เราก็ไม่ใช่ผู้ผลิตชิ้นส่วนเหล่านั้นอยู่ดี ทำน๊อตของเราให้ดีที่สุดนั่นแหละถูกต้องแล้ว เพราะเมื่อประกอบเป็นรถยนต์ขึ้นมา ชิ้นส่วนในโรงงานเราก็เป็นส่วนหนึ่งของรถยนต์คันนั้นและมีประสิทธิภาพเสีย ด้วย

ดังนั้น คนส่วนใหญ่ที่เถียงกันไม่จบไม่สิ้น ก็เพื่อจะบอกว่า ของฉันดีกว่าของเธอ ฝึกอย่างฉันดีกว่าฝึกอย่างเธอ ก็เพราะทุกคนตั้งอยู่ในความเห็นของตนเองว่า สิ่งที่เราทำดีที่สุด ถูกที่สุด นั่นเอง

ถ้ามาลองมองในมุมกว้างดูบ้าง ก็จะเห็นความเป็นเช่นนั้นเองของแต่ละกลุ่ม แต่ละจุดที่ต้องเตรียมการไม่เหมือนกัน แต่ก็สามารถมาร่วมรับรู้ รับทราบ และประสานงานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกัน และหากข้อมูลใดมีประโยชน์ ก็สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในเตรียมการนั้น ๆ ของแต่ละกลุ่มได้ เมื่อมองเช่นนี้ ก็จะไม่มีการแบ่งแยก เปรียบเทียบ ความคิดที่จะคอยยุแหย่ให้เกิดอคติกับกลุ่มต่าง ๆ ก็จะน้อยลง มองเห็นการทำงานของแต่ละกลุ่มด้วยความเข้าใจ ซึ่งก็เป็นการสร้างเกราะป้องกันความทุกข์จากความคิดได้ในระดับหนึ่งด้วย

ก็ด้วยความเห็นที่ว่า .... ทุกคนทำงานเดียวกัน คืองานเรื่องของภัยพิบัติ....นั่นเอง

นสพ.THE WALL STREET JOURNAL พิสูจน์ ufo ที่เขากะลา

http://online.wsj.com/video/space-aliens-love-thailand/750276F9-4CC5-461C-92F4-6126ABB74988.html

ระบบ/ การตอบคำถามของมนุษย์ต่างดาวเกี่ยวกับจักรวาล

ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ จะเห็นได้ว่ามีกลุ่มพลังงานจากนอกระบบโลก จากจักรวาล ไม่ว่าจะเป็น พลังจักรวาล จิตจักรวาล ครายออน มนุษย์ต่างดาว หรือเรียกชื่ออื่นใดก็ตามที่รับการสื่อสารจากจักรวาล จากนอกโลก ที่ได้มีการส่งมาเพื่อสื่อสารกับมนุษย์โลกในหลายกลุ่ม หลายบุคคล เพื่อถ่ายทอดข้อมูลเหล่านี้ให้กับมนุษย์โลกคนอื่น ๆ ได้รับทราบ ได้มีการกระจายข่าวสารไปทั่วโลก ผ่านทางหนังสือบ้าง ทางเวปไซด์บ้าง ทางวิทยุโทรทัศน์บ้าง โดยส่วนมากจะสื่อสารมาในรูปแบบ “กลุ่มความคิด” หรือ “กลุ่มพลังงาน” ที่มีการอธิบายกลไกของจักรวาล ซึ่งข้อมูลการสื่อสารดังกล่าวเป็นในรูปแบบใหม่ ๆ ที่มนุษย์อาจไม่เคยได้รับรู้ ได้ยินมาก่อน จึงค่อนข้างเป็นเรื่องแปลก โดยส่วนใหญ่จะออกมาในรูปแบบวิทยาศาสตร์ผสมผสานกับทางจิตนั่นเอง

หลาย สิ่งที่มนุษย์ยังไม่สามารถเข้าใจได้ อย่างที่มนุษย์ต่างดาวได้บอกว่า ที่เราไม่สามารถเข้าใจได้เพราะ “ความคิดแบบจิตมนุษย์” มาใช้กับจักรวาลยังไม่ได้ เพราะมนุษย์จะมีกรอบจำกัดของการรับรู้ในสิ่งที่ได้รู้ ได้เห็น ได้สัมผัส ด้วยตาเนื้อเท่านั้น ได้เท่าที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้เท่านั้น ที่เหลือนอกนั้นก็จะไม่ยอมเปิดใจรับฟัง เพราะยังพิสูจน์ไม่ได้ ดังนั้น ความคิดนี้จึงอยู่ในวงจำกัด คือตีกรอบไว้เท่านั้น

เพราะโครงการปรับ สมดุลของโลก เพื่อเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่นั้น ได้มีกลุ่มพลังงาน ที่มาทำหน้าที่แจ้งข่าวสารไปยังมนุษย์โลกในหลายกลุ่ม แต่ละกลุ่มก็มีชื่อเรียกต่าง ๆ กัน นั่นคือสมมุติเรียกกันในแต่ละจุด แต่ละกลุ่ม และข่าวสารจากจักรวาล ที่ได้รับการสื่อสารลงมา แต่ละกลุ่มก็มีกลไกที่จะต้องดำเนินงานไปตาม “ แผน” ที่ได้รับผิดชอบลงมา ซึ่งทุกกลุ่มความคิด ทุกกลุ่มพลังงาน ที่สื่อสารลงมา ก็ย่อมถูกต้องตรงตามเป้าหมายที่ได้รับมาทั้งสิ้น

ที่กลุ่มประสานงาน เพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ไม่แปลกใจในการสื่อสารของทุกกลุ่มพลังงาน ทุกคลื่นความคิดที่ติดต่อกับมนุษย์โลกนั้น เพราะระบบได้มีการอธิบายโครงสร้างโดยรวมให้ทราบถึงที่มาของแต่ละกลุ่ม พลังงานที่สื่อสารลงมาอยู่แล้ว แม้จะไม่ลึกลงในรายละเอียด ใน “ แผน” ของงานที่แต่ละกลุ่มพลังงานนั้น ๆ ต้องดำเนินการก็ตาม แต่ทุกอย่างที่แต่ละกลุ่มกำลังกระทำ กำลังให้ข้อมูล กำลังดำเนินการต่อเนื่องอยู่นั้น เป็นการทำงานตาม “แผน” ที่ได้มีการวางไว้ของแต่ละกลุ่มพลังงานนั้น ๆ ทั้งสิ้น โดยไม่มีการผิดพลาด หรือมีการแทรกแซงใด ๆ

เพียงแต่ “แผนงาน” ของแต่ละกลุ่มพลังงาน หรือกลุ่มความคิดนั้น ๆ ที่ได้รับมา จะเป็นรูปแบบไหนเท่านั้นเอง

ดัง นั้น ในส่วนที่จะได้นำลงให้อ่านต่อไปนี้ ก็เป็นการตอบคำถามจากมนุษย์ต่างดาว ให้กับผู้ที่ยังสงสัยในเรื่องของกลุ่มความคิด กลุ่มพลังงานต่าง ๆ ที่ติดต่อกับมนุษย์ ได้สอบถามเข้ามาเท่านั้น โดยทางกลุ่มฯ มิได้เจตนาจะก้าวล่วงไปยัง "แผนงาน" ของกลุ่มพลังงานนั้น ๆ ซึ่งในแต่ละกลุ่มก็ยังคงดำเนินการไปตาม “ แผนงาน” ที่ได้รับมานั่นเอง

ท่าน ที่ได้อ่านข้อความการสื่อสารต่อไปนี้ อาจต้องใช้การพิจารณาอย่างยิ่งในความเห็นของท่าน กับข้อมูลที่ได้สื่อสารลงมา ซึ่งบางท่านอาจหายสงสัยและมีความเข้าใจในภาพรวมของจักรวาลได้เลย หรือบางท่านอาจไม่พอใจ และยังคงลังเลสงสัยต่อไป ก็ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า

แต่ทั้งหมดนี้คือ ข้อมูลที่ได้รับการสื่อสารมาจริง จากมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

UFO, Alien Mothership Space Craft over China-1

ระบบ/งานเฉพาะกิจในโครงการช่วยเหลือภัยพิบัติ

งานเฉพาะกิจครั้งนี้ เป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจ และยากที่จะอธิบายให้บุคคลทั่วไปเข้าใจได้ ระบบจึงมุ่งหมายให้คนของระบบที่วางไว้ 5,000 คนทั่วโลกในโครงการนี้ ได้มาพบเจอกัน มารู้จัก มาเข้าใจ และทำงานร่วมกันก่อนในขั้นต้น

จะมาพบเจอ มารู้จักกันได้อย่างไร เพราะต่างคนต่างอยู่ หลากหลายสถานที่ หลายจังหวัด หลายประเทศ


ดังนั้น จึงต้องมีรูปแบบ จึงต้องมีการรวมกลุ่ม มีการทำกิจกรรมต่าง ๆ ขึ้นมา ให้คนทั่วไปได้รับรู้


มี การ...แจ้งเพื่อทราบ แจ้งข่าวผ่านทางสื่อมวลชน ทางทีวี ทางหนังสือพิมพ์ ทางนิตยสารมากมายหลายฉบับ เพื่อเป็นการส่งข่าวไปยังผู้ที่อาสาลงมาร่วมงานในโครงการเดียวกัน จะได้รับทราบ และเข้ามาพบเจอกัน


ดังนั้น หลายคนที่รู้จักเขากะลา รับรู้ความเป็นมา ก็เพราะดูจากรายการทีวี อ่านจากหนังสือ นี่คือสื่อ....ที่จำเป็น


แต่มิใช่ว่า เขากะลาจะอยากเด่น อยากดังใด ๆ แต่เพราะงานระบบ...ต้องดำเนินไปตามแนวทางอย่างนั้น


....มี "จานบิน" มากมาย มาปรากฏ เพื่อประกอบฉาก....เพื่อให้เกิดความสนใจ และเข้ามาศึกษาว่า...มนุษย์ต่างดาว...มาทำไม? บนโลกใบนี้


และ สุดท้าย เมื่อเข้ามาศึกษา ก็จะพบว่า จะมีทั้งเรื่องของต่างดาว และเรื่องธรรมะการละวางอัตตาตัวตน ควบคู่กันไปด้วย และเป็นประโยชน์ตนสูงสุด ของผู้ทำงาน


บุคคลของระบบท่านนั้น ๆ จะเข้าใจได้มากน้อยแค่ไหน ก็เป็นไปตามงานของแต่ละท่านที่ได้อาสาลงมา


ถ้ามีฉากร่วมกันนาน ก็จะเข้าใจ อยู่ร่วมกันไป ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันตามงาน

ถ้ามีฉากร่วมกันน้อย ก็ผ่านมา แวะทักทาย แล้วผ่านไปทำงานของแต่ละท่าน....ที่ได้รับมอบหมายมา

คนระบบอีกมากมาย ที่ไม่เคยได้พบเจอ ไม่เคยได้รู้จัก ไม่เคยได้พบหน้า แต่รับรู้ว่ากลุ่มนี้กำลังทำอะไร

เพราะรับรู้ผ่านอินเตอร์เน็ททางไกล นั่นเอง

ดังนั้น ระยะทางจึงไม่ใช่ปัญหาของการมาทำความเข้าใจ


เพราะการให้ข้อมูลข่าวสารผ่านอินเตอร์เน็ท ก็เป็นการทำงานของระบบอย่างหนึ่ง

อย่าง เช่นที่กำลังให้ข้อมูลต่าง ๆ ผ่านเว็บไซด์แห่งนี้ ก็เป็นการทำงานกับระบบอย่างหนึ่ง คือการแจ้งเพื่อทราบ ในโครงการช่วยเหลือภัยพิบัติในครั้งนี้ ตามที่ได้รับการถ่ายทอดข้อมูลลงมา

ถ้าบุคคลคนนั้น เป็นคนที่ระบบได้วางไว้ เขาก็จะเข้าใจได้นั่นเอง


บาง ท่าน สนใจเรื่องภัยพิบัติ ก็ได้หาข้อมูลข่าวสารมาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ได้รับทราบ ให้ตระหนักถึงเหตุการณ์ที่เริ่มรุนแรงขึ้น บุคคลนี้อาจจะทำเช่นนั้นเป็นประจำตามความชอบ ตามความสนใจ อาจไม่ทราบด้วยซ้ำไป ว่านี่คือการทำงาน


จะทำงานแบบเข้าใจ หรือไม่เข้าใจ ก็ทำงานได้เช่นกัน


จึงถูกต้อง...ทุกงาน ทุกหน้าที่ ทุกวิธี...ที่มีการดำเนินกิจกรรมเพื่อการประสานงาน


ทุกท่านที่บังเอิญพบเจอ บังเอิญเข้ามาสนใจ ก็เรียกได้ว่า....มาตามงาน

ได้เข้ามาอ่าน มารับรู้โครงการ มาทำความเข้าใจ มาเก็บเกี่ยวประโยชน์ตนกลับไป...สักวันหนึ่งท่านก็จะรู้ได้ว่า งานของท่านคืออะไร ?

เพราะถ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ไม่อาจมาพบเจอ มาเข้าใจ หรือมาเชื่อถือในเรื่องเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน


กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

BREAKING NEWS! UFO FLY ACROSS THE MOON! NASA IS BAFFLED. (Did you see w...

ระบบ/ การเตือนเรื่องภัยพิบัติจากมนุษย์ต่างดาว

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) เป็นกลุ่มที่ได้รับการสื่อสารมาจากมนุษย์ต่างดาว ที่มาเพื่อเตรียมการให้ความช่วยเหลือเรื่องของภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นบนโลก ใบนี้ โดยการที่จะให้ความช่วยเหลือนั้น ต้องอยู่ในกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ ที่ไม่อาจไปแทรกแซงกฎแห่งกรรมได้

ดังนั้น สิ่งที่มนุษย์ต่างดาวได้เคยกล่าวไว้นานแล้วว่า

มนุษย์ ต่างดาวได้ตั้งกลุ่มบุคคลขึ้นมากลุ่มหนึ่ง ที่อาสามาทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาว ในการให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในการที่จะเกิดภัยพิบัติในครั้งนี้ และ เป็นผู้รับการสื่อสารข้อมูลการเตือนภัยจากมนุษย์ต่างดาว

โดยให้ตั้งชื่อกลุ่มนี้ว่า กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

และมนุษย์ต่างดาวได้มาเตรียมการให้ความช่วยเหลือในหลายขั้นตอน ก่อนเกิดภัยพิบัติ ขณะเกิดภัยพิบัติ และหลังเกิดภัยพิบัติ

การ เตรียมการณ์นั้น อยู่ในหลายขั้นตอน ทั้งเรื่องการเตรียมความพร้อมทั้งทางด้านจิตใจ และฝึกการใช้เทคโนโลยีจากต่างดาวพร้อมกันไปด้วย

ดังนั้นชื่อกลุ่ม ได้บอกตรงตัวอยู่แล้วว่า กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย

*** ดังนั้น การเตือนภัยต้องมีขึ้นอย่างแน่นอน ***

เพียงแต่การที่จะเตือนภัยพิบัติ อาจจะไม่ใช่รูปแบบอย่างที่เข้าใจ ไม่ใช่รูปแบบ อย่างที่เคยเห็น เคยได้ยิน เคยรับรู้มาก่อน

แต่อาจเป็นรูปแบบที่เราอาจไม่เข้าใจว่าทำไม ต้องทำแบบนั้น แบบนี้
มนุษย์ ต่างดาวเคยบอกไว้ว่า การเตรียมการเพื่อช่วยเหลือภัยพิบัตินั้น ได้มีหลายขั้นตอน สำหรับในขั้นตอนการเตือนภัยพิบัตินั้น ได้มีการวางช่องทางการเตือนไว้อย่างเป็นขั้นตอน

*** และในการที่จะเตือนเรื่องใด เมื่อไรนั้น ขึ้นอยู่กับมนุษย์ต่างดาว ผู้รับผิดชอบโครงการนี้ ***

มิได้ขึ้นอยู่กับมนุษย์โลกผู้ร่วมในโครงการ แม้มนุษย์ผู้นั้น ก็อยากจะให้มีการเตือนภัยให้คนอื่นได้รับรู้ก็ตาม

แต่เพราะเรื่องนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความอยาก ความต้องการของใคร ๆ
แต่ขึ้นอยู่กับขั้นตอนของผู้รับผิดชอบโครงการเตือนภัยเท่านั้น

ซึ่งผู้ที่รู้เหตุการณ์ และผู้ที่มาเตรียมการให้ความช่วยเหลือ ก็ไม่ใช่มนุษย์บนโลกใบนี้

ดังนั้น ในขณะนี้ระบบได้เตรียมพร้อม ในช่องทางในการเตือนภัยพิบัติไว้เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งก็เป็นหนึ่งในหลาย ๆ ขั้นตอนของการเตรียมการของมนุษย์ต่างดาว

ช่องทางการเตือนภัยพิบัติ หมายถึงอะไร?

มนุษย์ ต่างดาวเคยยกตัวอย่างให้ฟังว่า เวลาที่มนุษย์โลกได้มีการเตือนภัยพิบัตินั้น ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ก็ตั้งอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี(ในขณะนั้น) ทำหน้าที่เตือนภัยพิบัติ หากเกิดแผ่นดินไหว หรือเกิดพายุ หรือเกิดน้ำท่วม หรือเกิดภัยพิบัติด้านใด ๆ ก็ตาม

การเตรียมการเพื่อช่วยเหลือภัย พิบัติจากเครื่องมือเทคโนโลยีทางโลกมนุษย์นั้น ก็จะรู้ว่าจะมีพายุ มีสึนามิ มีไซโคลน หรือจะมีฝนตก จะมีคลื่น จะมีฝนฟ้าคะนอง จากเครื่องมือวัดอากาศ ที่สามารถคาดการณ์ได้ ดังนั้นจึงได้มีการเตือนประชาชน ให้ระมัดระวัง

ศูนย์ เตือนภัยจะแ้จ้งให้ทราบ ในแต่ละภาค ในแต่ละจังหวัด ในแต่ละอำเภอ ตำบล ควรระวังอะไร จะเกิดอะไร เพื่อจะได้เตรียมการอพยพได้ทัน

แต่ผู้ ที่กำลังจะประสบกับเหตุการณ์นั้น และจะต้องเป็นผู้ได้รับข้อมูลการเตือนภัยเหล่านี้ ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนจะต้องมาที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติกันทั้งหมด ต้องเดินทางมา อยู่ในห้องส่ง มารับฟังข่าวสารที่ศูนย์เตือนภัย หรือมาเกาะรั้วของศูนย์ เตือนภัยฯ จึงจะรับทราบข้อมูลข่าวสารนั้นได้ ว่าจะเกิดพายุที่ใด เกิดแผ่นดินไหวที่ไหน หรือเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติอย่างไร

แต่...... ทางศูนย์เตือนภัย ได้มีช่องทางการเตือนภัยไว้เรียบร้อยแล้ว นั่นคือ ให้เปิดทีวี ให้เปิดวิทยุ ให้ดูข่าวสารผ่านสื่อต่าง ๆ ก็จะรู้เรื่องของภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น หรือกำลังเกิดขึ้นในขณะนั้น ตามที่ศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติ จะแจ้งเตือน

เพราะศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ จะเป็นผู้เฝ้าระวัง และติดตามเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว

นี่คือช่องทางการเตือนภัยของมนุษย์โลก ที่มีอยู่ในทุกประเทศ
และสำหรับช่องทางการเตือนภัยของมนุษย์ต่างดาวก็เช่นกัน ได้มีการวางไว้หลายรูปแบบ

เช่น ผ่านทางเว็บไซด์ ufokaokala.com แห่งนี้ ที่ระบบได้มีการให้เปิดเป็นช่องทางไว้แล้ว

ผ่าน ทางสื่อมวลชนเช่น หนังสือพิมพ์หลายฉบับ ที่เคยนำเสนอเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา หากมีการเตือนก็จะใช้ช่องทางนั้นเช่นกัน

ผ่านทางรายการทีวีช่องต่าง ๆ ที่ได้เคยนำเสนอเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา และได้มีการทำความรู้จักไว้แล้ว ก็เป็นช่องทางหนึ่ง

ผ่านทางตัว บุคคลของระบบ ที่ได้อยู่ในวงการสื่อมวลชนต่าง ๆ และเป็นผู้เผยแพร่ข้อมูลของระบบ เมื่อมีเหตุการณ์ที่ต้องเตือนให้มนุษย์โลกได้รู้ บุคคลที่ระบบวางไว้ก็จะสามารถนำข้อความการเตือนภัยนั้น ไปกระจายให้มนุษย์ได้รับทราบอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

และยังมีช่องทางอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ระบบได้ไปประสานงานไว้ ก็เพื่อแจ้งเตือนในภัยพิบัติหากได้รับการสื่อสารข้อความมา

และ หากมีข้อมูลเพื่อเตือนภัยพิบัติจากมนุษย์ต่างดาวส่งมาให้แจ้งมนุษย์โลก ผู้ที่ติดตาม และรับรู้ช่องทางของการเตือนภัย ย่อมไม่พลาดข่าวสารนั้นอย่างแน่นอน

แต่..... ณ ขณะนี้ ณ. เวลานี้ มนุษย์ต่างดาวที่กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ติดต่ออยู่นั้น และเป็นผู้ที่รับผิดชอบในโครงการนี้ ยังมิได้มีการกล่าวเตือนในเรื่องของภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ

ยังคงให้ปฏิบัติธรรม ละวางอัตตาตัวตน และอยู่กับปัจจุบัน ... ในทุกขณะจิต

ดัง นั้น สิ่งที่มนุษย์ต่างดาวเตือนอย่างต่อเนื่อง ยาวนานนับ 10 ปีนั้น ก็คือการเตือนภัยในวัฏฏสงสาร ว่าการเวียนว่ายตายเกิดนั้นเป็นอันตราย ยิ่งกว่าอันตรายใด ๆ ที่จะได้พบเจอบนโลกใบนี้

การเจอภัยพิบัติครั้งนี้ แล้วจากไป แต่ก็ต้องเกิดมาใหม่ เพื่อเจอภัยพิบัติในรูปแบบอื่น ๆ อีกมากมายในภพชาติต่อไป ไม่มีวันจบสิ้น

ภัย ในสังสารวัฏนี้ เป็นภัยใหญ่กว่าภัยไหน ๆ ที่แม้กระทั่งมนุษย์ต่างดาวที่มาให้ความช่วยเหลือ ยังให้ความสำคัญกับการยกระดับจิต มากกว่าการถ่ายทอดเทคโนโลยี ที่มนุษย์มุ่งค้นหากันนักกันหนานั้น

ต่อให้มี ต่อให้มาก ด้วยพลังงานพิเศษมากมาย ยังให้ทิ้ง ยังให้วาง ยังให้ไม่สนใจ

นั่นคือให้มุ่งหมายละวางอัตตา ละวางขันธ์ 5 ยกระดับจิตให้ทันก่อนที่จะเกิดมหันตภัยครั้งใหญ่ขึ้น

เพราะกฎธรรมชาติ การจะช่วยเหลือได้นั้น ช่วยได้ตามสภาวะจิต ตามบารมีของแต่ละท่านเท่านั้น

แม้ในทางปฏิบัติ พระภิกษุสงฆ์ หรือผู้ปฏิบัติธรรมยังกลุ่มต่าง ๆ ก็พยายามย้ำเตือนให้ทุกคนเร่งปฏิบัติธรรม

นั่นแสดงว่า เป็นกลไกของธรรมชาติ ที่ต้องมีการสร้างบารมีให้มากยิ่งขึ้นไปในช่วงเวลานี้

ดัง นั้น ผู้ที่รู้ถึงกฎธรรมชาติ และรู้ว่าสิ่งใดที่จะทำแล้วจะสามารถรอดพ้นจาก หายนะนั้น และยังสามารถที่จะช่วยเหลือบุคคลอื่น ๆ ได้ด้วยนั้น


จึง ต้องมาชี้แนะแนวทาง เพื่อยกระดับจิตให้ทันในเกณฑ์ที่จะสามารถรอดพ้นจากภัยพิบัติได้ ไ่ม่ว่าท่านผู้่รู้กฏธรรมชาตินั้น จะเป็นพระภิกษุ เป็นผู้ปฏิบัิติธรรม เป็นทวยเทพเทวา หรือแม้กระทั่งมนุษย์ต่างดาวเองก็ตาม

ืก็ย่อมมาชี้แนะ มาเร่งให้ปฏิบัติ มาเร่งให้ยกระดับจิตให้ทัน นั่นก็คือ การปฏิบัติธรรม ที่ระบบเรียกว่า ประโยชน์ตน

นั่น คือ การละวางอัตตาตัวตน ละการยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ 5 การรู้จักขันธ์ห้าตามความเป็นจริง การรู้จักทุกข์ และการปฏิบัติเพื่อออกจากทุกข์เท่านั้น

ดังนั้น จะปฏิบัติที่ไหน ปฏิบัติวิธีใด ปฏิบัติกับกลุ่มใดใด หากเป็นไปเพื่อละการยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า ละวางอัตตาตัวตน
....ย่อมถูกต้องกับกฏธรรมชาติทั้งสิ้น

กลุ่ม ประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ก็ยังคงได้รับการเตือนให้เร่งปล่อยวาง ละการยึดมั่นถือมั่นในอุปาทานขันธ์ห้า และละวางอัตตาตัวตนอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อได้ประโยชน์ตนของผู้ทำงาน

ส่วนประโยชน์ท่าน มนุษย์ต่างดาวก็ยังคงเตรียมการเพื่อช่วยเหลือภัยพิบัติบนโลกใบนี้อยู่อย่างต่อเนื่อง

*** และหากมีข้อมูลการเตือนภัยพิบัติจากมนุษย์ต่างดาวอย่างเป็นทางการ จากกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ที่ต้องการให้มนุษย์โลกได้รับทราบเมื่อใด

ทุกท่านจะรับทราบได้ ผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่มนุษย์ต่างดาวได้วางไว้แล้ว.....อย่างแน่นอน ***

จึงขอ...แจ้งเพื่อทราบ...อีกครั้ง

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

Russia's UFO Video.flv

วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

17 drifting@สงขลา/2011

ระบบ/การรับข้อมูลจากมนุษย์ต่างดาวสำหรับคนระบบที่ทำงานแบบรู้ตัว

สื่อข้อความลงมาโดยตรง โดยข้อมูลคมชัดและไม่มีการผิดพลาด ในขณะที่ผู้รับการสื่อสารยังตื่นอยู่ และมีสติรับรู้ ในขณะดำเนินกิจกรรมในชีวิตประจำวัน

รับข้อมูลแบบรู้ตัว เป็นข้อความโดยตรงผ่านอุปกรณ์เครื่องรับที่ได้มีการเชื่อมต่อไว้ก่อนแล้ว ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าว เป็นเทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาวทำหน้าที่คล้ายโทรศัพท์ของเราแต่ล้ำหน้ากว่า มาก จะมีทั้งภาพ ทั้งเสียง จึงรับรู้ข้อความอย่างชัดเจน หรือเห็นภาพไปพร้อม ๆ กันอย่างชัดเจน เพราะมีความไฮเทคกว่าของมนุษย์มากมาย และมีทั้งเป็นรูปแบบพลังงานที่มองไม่เห็น จับต้องไม่ได้ และบางครั้งก็มีเป็นมวลสารเป็นวัตถุที่สัมผัสได้

ซึ่งผู้ที่รับ ข้อมูลแบบรู้ตัว จะสามารถรับรู้ว่า ข้อความที่เข้ามานี้ไม่ใช่ความคิดของเรา แต่เป็นของมนุษย์ต่างดาวที่สื่อสารมา จึงเป็นการรับข้อมูลโดยรู้แหล่งที่มาว่ามาจากที่ใด

ผู้ที่ฝึกรับการ สื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวแบบรู้ตัว คือ กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) เมื่อฝึกรับข้อมูล และผ่านการฝึกแล้ว จะสามารถรับข้อมูลผ่านอุปกรณ์เหล่านี้โดยตรง

ในทุกขณะที่ระบบต้องการสื่อสารมา ในขณะนั่งอยู่ ในขณะเดิน ในขณะทำกิจกรรมอื่น ๆ

หรือ ขณะพิมพ์ข้อความซึ่งส่วนหนึ่งเล่าในสิ่งที่ผ่านมาแล้ว และบางส่วนก็เป็นข้อความใหม่ที่ส่งมาขณะที่กำลังพิมพ์ข้อความอยู่ในขณะนั้น หากข้อความนั้นระบบต้องการให้แจ้งสู่สาธารณะ ผู้พิมพ์กับผู้อ่านก็จะทราบข้อความนั้นเกือบจะพร้อม ๆ กัน ในเวลาใกล้เคียงกัน

การสื่อสารผ่านอุปกรณ์นี้ ผู้ที่รู้ตัวว่าทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาวก็จะรับรู้ได้ถึงอุปกรณ์ที่นำมา ใช้งานในแต่ละเหตุการณ์ เพราะระบบได้มีการติดตั้งอุปกรณ์ไว้ในอายตนะทั้งหมด ดังนั้น ตาอาจจะมองเห็นภาพในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง เห็นภาพมนุษย์ต่างดาวได้ขณะลืมตา เห็นได้ทั้งยานอวกาศที่บางคนอาจไม่เห็น มองเห็นความคิดคนอื่นได้ มองทะลุกำแพง มองเห็นอีกมิติได้ หูได้ยินเสียงพูด หรือเสียงอื่นๆได้ จมูกได้กลิ่นต่าง ๆ หรือลิ้นสามารถรับรู้รสต่าง ๆ ได้ หรือกายเราสามารถสัมผัสพลังงานได้ ในร่างกายอาจมีพลังงานไฟฟ้ามากเกินก็ได้ พลังงานอื่น ๆ ที่มากเกิน น้อยเกินก็ได้ หรือขณะอ่อนเพลียอยู่ก็สดชื่นแข็งแรงฉับพลันได้ เพราะมีการเติมสารพลังงานเข้าไปทดแทนจึงสดชื่นแข็งแรงได้ฉับพลัน และร่างกายนี้สามารถเข้าออกมิติได้ หรือสัมผัสรับรู้สิ่งต่าง ๆ ผ่านทางร่างกายนี้ได้เช่นกัน

นั่นขึ้นอยู่กับว่า มนุษย์ต่างดาวต้องการจะสื่อสารเมื่อใด และการสื่อสารนั้นเพื่อประสานงานเรื่องอะไร กับใคร ก็จะส่งข้อมูลเป็นข้อความ ภาพ เสียง หรืออื่น ๆ เข้ามาทันที

โดยไม่มีขีดจำกัดว่าต้องตอนไหน ขณะกำลังเดิน กำลังทานอาหาร กำลังสนทนากันอยู่ ได้ทั้งสิ้น

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

ระบบ/การฝึกของมนุษย์ต่างดาว

หลายท่านที่ติดตามอ่านข้อมูลของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) มาโดยตลอดนั้น หลายท่านคงพอทราบแล้วว่า มนุษย์ต่างดาวมาโลกเราทำไม และความสงสัยที่ว่า ทำไมมนุษย์ต่างดาวต้องมาฝึกมนุษย์โลก เขาฝึกทำไม? ฝึกเพื่ออะไรนั้น ได้มีการแจ้งให้ทราบไปแล้วในค่อนข้างชัดเจนว่า

- มนุษย์ต่างดาวมาเพื่อเตรียมการช่วยเหลือมนุษย์ ในเรื่องของภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น

- เตรียมการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์โลก โดยมีการจัดวางผู้ที่ต้องทำงานร่วมกับระบบไว้ทั่วโลกประมาณ 5,000 คน เพื่อรับข้อมูลและเทคโนโลยีจากต่างดาว เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง
- ฝึกกลุ่มบุคคลขึ้นมากลุ่มหนึ่ง ทำหน้าที่แจ้งข่าวสาร ทำหน้าที่ประสานงานฯ และรับข้อมูลของการเตือนภัย แล้วแจ้งให้สาธารณชนได้รับทราบ

การฝึกแยกข้อมูลนั้น จะถูกฝึกเดี่ยวของแต่ละคนที่ถนัดในด้านต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน บางคนสงบไม่ค่อยฟุ้งซ่าน ข้อมูลก็ผ่านมาในความคิดท่ามกลางความสงบนั้น จะเด่นชัด แยกได้ง่าย หรือบางคนมีความฟุ้งซ่านเป็นพื้นฐาน

ก็ต้องฝึกสติ ให้มาก เพื่อที่จะแยกข้อมูลเหล่านั้นออกจากความฟุ้งซ่านของตนเอง ที่ระบบต้องเน้นให้ฝึกสติให้มาก ให้เร็ว และแม่นยำนั้น ในขั้นต้นก็คือ

- การทำงานเรื่องของภัยพิบัตินั้น ย่อมมีความวุ่นวายในสถานการณ์รอบตัว ผู้ที่ถูกฝึกให้ทำงานเกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติ จะไม่ได้มีเวลาที่จะหาที่สงบสำหรับนั่งสมาธิได้ เพราะต้องอยู่กับความวุ่นวายรอบตัวตลอดเวลา จึงต้องมีสติ ไปอยู่ยังจุดต่าง ๆ จึงจะมีความสงบในท่ามกลางความวุ่นวายได้ เพราะส่วนใหญ่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายเป็นหลักอยู่ตลอดเวลา สติจึงต้องไปจับอยู่ตามการเคลื่อนไหวของร่างกายตามอิริยาบถต่าง ๆ นั่นเอง


- เพื่อที่จะหาที่เกาะให้กับจิตที่ชอบแส่ส่ายออกไปนอกตัว คือ เมื่อไม่มีที่เกาะ ถ้ายืนอยู่ไม่เอาสติไปไว้ที่น้ำหนักส่วนเท้า ถ้านั่งอยู่ไม่เอาสติไปรับรู้น้ำหนักขณะนั่ง ความคิดมันก็จะวิ่งไปเรื่อย คิดเรื่องโน้น เรื่องนี้ คิดวิตกกังวล เพ้อเจ้อไปเรื่อยเปื่อย ถ้าคิดเรื่องทุกข์ก็ทุกข์ไปเลย ทั้ง ๆ ที่เรื่องยังไม่เกิด เพราะไม่หาที่เกาะให้สติมันอยู่ภายในกาย แต่ปล่อยให้มันออกไปอยู่นอกกาย ก็เลยมีโอกาสที่จะสุข จะทุกข์ได้เสมอเพราะความคิด แต่เราทำหลักไว้ให้สติเกาะแล้ว พอเจอเรื่องอะไร กระโดดไปจับยังอิริยาบถที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนั้นโดยทันที ไปอยู่ที่ขา ที่เท้า หรือจะกำมือ แบมือ ช่วยอีกแรงให้สติไปอยู่ยังจุดนั้นโดยเร็ว คือจับไว้ก่อน แล้วค่อยเอามาพิจารณา คือพอมีสติ ปัญญาก็จะเกิด คราวนี้ก็จะนำมาพิจารณาได้ว่า ควรโกรธดีไหม ? ควรกังวลดีไหม? ควรแก้ไขอย่างไร (ใคร ที่ฝึกสติแล้วมันคอยแต่จะฟุ้งซ่าน ความคิดลอยไปเรื่อย นั่งสมาธิแล้วมันไม่สงบ ลองทำวิธีนี้ดูได้ เพราะเป็นการฝึกสติในท่ายืน เดิน นั่ง นอน ซึ่งอิริยาบถ 4 นี้ เราต้องใช้ทั้งวันตั้งแต่ตื่นกระทั่งนอน ถ้าจับสติได้ก็ถือว่ามีสติตลอดเวลา)


ถ้าเราไม่รู้ว่ากำลังฝึก กำลังทำงานกับมนุษย์ต่างดาว และสิ่งเหล่านี้เป็นอุปกรณ์เทคโนโลยีเพื่อฝึกเท่านั้น เราก็ย่อมคิดไปเป็นอย่างอื่น เป็นเรื่องราวลึกลับปาฏิหาริย์แล้วแต่จะปรุงแต่งเป็น ในรูปแบบใด เพราะสิ่งที่เป็นเทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาว ก็ทำเลียนแบบ ทำได้เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเช่นกัน แต่เมื่อเรารู้เราก็ไม่ไปยึดว่าสิ่งนี้เป็นอิทธิปาฏิหาริย์แต่อย่างใด เป็นอุปกรณ์เทคโนโลยี และนำมาใช้งานได้เท่านั้น


กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

TIME TRAVELERS CAUGHT IN THE ACT

ANOTHER POSSIBLE EXAMPLE: TIME TRAVELERS CAUGHT IN THE ACT

The British press appears to be involved in the Resistance -- and the push for Disclosure. I would imagine there are strong elements in the British press who are openly cooperating with the BRICS alliance on their goals.

I was surprised to see a possible case of time travel -- suggesting that someone from our own time traveled back to ancient China, and accidentally left her antique Swiss finger watch behind.

There is obviously no way of knowing what is going on here, or if it's even real. The article was originally published in 2008, but it suddenly started making the rounds again in March 2011.

It is possible that this was left behind by a woman who traveled back in time -- to hopefully stop China from becoming the formidable adversary it has now become. This may be why the artifact was found in a tomb from the royal family.

It is possible that a targeted assassination was performed and the watch fell off in the process. Perhaps it was hoped that the Chinese royal bloodline could be thrown off by doing this -- and future events could be altered.

Obviously, if this was the plan, it didn't work.

Century-old Swiss watch discovered in ancient tomb sealed for 400 years
Archaeologists are stumped after finding a 100-year-old Swiss watch in an ancient tomb that was sealed more than 400 years ago.
They believed they were the first to visit the Ming dynasty grave in Shangsi, southern China, since its occupant's funeral.
But inside they uncovered a miniature watch in the shape of a ring marked 'Swiss' that is thought to be just a century old.
The mysterious timepiece was encrusted in mud and rock and had stopped at 10:06 am.
Watches were not around at the time of the Ming Dynasty and Switzerland did not even exist as a country, an expert pointed out.
The archaeologists were filming a documentary with two journalists when they made the puzzling discovery.
When we tried to remove the soil wrapped around the coffin, suddenly a piece of rock dropped off and hit the ground with metallic sound,' said Jiang Yanyu, former curator of the Guangxi Museum.
'We picked up the object, and found it was a ring.
'After removing the covering soil and examining it further, we were shocked to see it was a watch,' he added.
The Ming Dynasty - or the Empire of the Great Ming - was the was ruling dynasty in China from 1368 to 1644.


UFOKAOKALAเมฆจานบิน.AVI

ufo cigar @ lopburi


บริเวณใกล้ๆกับแม่น้ำป่าสัก อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เวลาประมาณ 14.00น. บันทึกวีดีโอการก่อตัวเป็นเมฆนิวเคลียร์แต่ถ่ายติดยานแบบซิการ์ 1ลำ แบบสามเหลี่ยม1ลำ แล้วก็แบบที่เห็นในรูปนี้อีก 1ลำ บินโฉบกันด้วยความเร็วสูงมาก

วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

Was JFK killed because of his interest in aliens? Secret memo shows president demanded UFO files 10 days before death Read more

Was JFK killed because of his interest in aliens? Secret memo shows president demanded UFO files 10 days before death

An uncovered letter written by John F Kennedy to the head of the CIA shows that the president demanded to be shown highly confidential documents about UFOs 10 days before his assassination.

The secret memo is one of two letters written by JFK asking for information about the paranormal on November 12 1963, which have been released by the CIA for the first time.

Author William Lester said the CIA released the documents to him under the Freedom of Information Act after he made a request while researching his new book 'A Celebration of Freedom: JFK and the New Frontier.'

Assassination: Was JFK shot to stop him discovering the truth about UFOs?

Assassination: Was JFK shot to stop him discovering the truth about UFOs?

The president’s interest in UFOs shortly before his death is likely to fuel conspiracy theories about his assassination, according to AOL News.

Alien researchers say the latest documents, released to Mr Lester by the CIA, add weight to the suggestion that the president could have been shot to stop him discovering the truth about UFOs.

In one of the secret documents released under the Freedom of Information Act, JFK writes to the director asking for the UFO files.

Enlarge Released: Letter from JFK to CIA director asking for access to UFO files, which has been released to an author under the Freedom of Information Act

Released: Letter from JFK to CIA director asking for access to UFO files, which has been released to an author under the Freedom of Information Act

In the second memo, sent to the NASA administrator, the president expresses a desire for cooperation with the former Soviet Union on mutual outer space activities.

The previously classified documents were released under the Freedom of Information Act to teacher William Lester as part of research for a new book about JFK.

He said that JFK’s interest in UFOs could have been fuelled by concerns about relations with the former Soviet Union.

Beam me up: Days before he was killed, JFK wrote to the CIA demanding access to their files about UFOs

Beam me up: Days before he was killed, JFK wrote to the CIA demanding access to their files about UFOs

Enlarge Unclassified: A second memo written by JFK on November 12 1963, 10 days before his assassination, which has been released by the CIA

Unclassified: A second memo written by JFK on November 12 1963, 10 days before his assassination, which has been released by the CIA

‘One of his concerns was that a lot of these UFOs were being seen over the Soviet Union and he was very concerned that the Soviets might misinterpret these UFOs as U.S. aggression, believing that it was some of our technology,’ Mr Lester told AOL News.

‘I think this is one of the reasons why he wanted to get his hands on this information and get it away from the jurisdiction of NASA so he could say to the Soviets, “Look, that's not us, we're not doing it, we're not being provocative. “.’

But conspiracy theorists said the documents add interest to a disputed file, nicknamed the ‘burned memo’, which a UFO investigator claims he received in the 1990s.

The document, which has scorch marks, is claimed to have been posted to UFO hunter Timothy Cooper in 1999 by an unknown CIA leak, but has never been verified.

Disputed: In the 'burned memo' the CIA director allegedly wrote: 'Lancer [JFK] has made some inquiries regarding our activities, which we cannot allow'

Disputed: In the 'burned memo' the CIA director allegedly wrote: 'Lancer [JFK] has made some inquiries regarding our activities, which we cannot allow'

In a note sent with the document, the apparent leaker said he worked for CIA between 1960 and 1974 and pulled the memo from a fire when the agency was burning some of its most sensitive files.

The undated memo contains a reference to ‘Lancer’, which was JFK's Secret Service code name.

On the first page, the director of Central Intelligence wrote: ‘As you must know, Lancer has made some inquiries regarding our activities, which we cannot allow.

‘Please submit your views no later than October. Your action to this matter is critical to the continuance of the group.’

The current owner of the ‘burned memo’, who bought it from Timothy Cooper in 2001 told AOL News that it shows that when JFK asked questions about UFOs that the CIA ‘bumped him off’.

UFO investigator Robert Wood said he has tested the paper it was printed on, the ink age, watermarks, font types and other markings.

He said: ‘I hired a forensics company to check the age of the ink and check several other things that you can date, using the same techniques you’d use in a court of law.’

UFO Crash In Del Rio

Hovering Blue Lights Over Garden Grove! UFO! 3

Garden Grove UFO SIGHTING POLICE ESCORT, AMust See UFO Sighting thats S...

UFO Over Car with Family Australia

巴西拍到很清楚的UFO

UFO Fleet Clearly Filmed Circling Hawaii 4 11 Video

2011年 巴西UFO群 發射不明物體

วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

มนุษย์ต่างดาวเผ่าเกรย์

พวกเขาคือต้นตำนานแห่งการลักพาตัว และการชำแหละสัตว์เพื่อเอาอวัยวะ
เป็น ต้นตอแห่งความรู้ด้านเทคโนโลยี่การใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และคอมพิวเตอร์ เป็นผู้เชี่ยวชาญในการเดินทางทะลุเวลา เป็นกลไกเบื้องหลังแห่งรัฐบาลเงาของโลก ว่ากันว่า พวกเขาสามารถ ทำสุนามิและแผ่นดินไหวให้เกิดขึ้นจุดไหนก็ได้ สงครามต่างๆที่ระบาดไปทั่วโลก และ โรคร้ายต่างๆที่แปลกใหม่ ยากต่อการรักษา เชื่อกันว่า เป็นผลงานของพวกเขาทั้งสิ้น

---การลักพาตัว จะเกิดมากที่สุดในอเมริกา เพราะการยินยอมจากรัฐบาล
เหตุผล เพื่อการวิจัยยีนส์ และการผสมข้ามพันธุ์--ว่ากันว่า ชาวเกรย์ ให้ทุนสถาบันในอเมริกา 10 แห่ง เพื่อการวิจัยโตลนนิ่งอย่างเดียว--เพราะพวกเขาต้องพึ่งการสืบพันธุ์แบบนี้-- แต่มีข้อเสียคือรุ่นหลังจะอ่อนแอลง
ชื่อของพวกเขา มาจากสีผิวที่เราจะเห็นเป็นสีเทา--แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ 1. มาจากกลุ่มดาว โอเรี่ยน เป็นโอเรียนเกรย์ชนิดที่ 1
2. โอเรียนเกรย์ชนิดที่ 2
3. เกรย์สปีชี่ย่อย
นอกจากนี้จะมีพวก เกรย์สปีชี่ย่อยลงไปอีก 22 แบบ จากดาว ริเกล -Rigel,
เออร์ซ่า เมเจอร์-Ursa Major ,ดราโคนิส- Draconis และ ซีต้า เร็ตติคิวลั่ม-Zeta Reticulum
--เราต้องพยายามเข้าใจพวกเขา เพราะพวกเขามีจุดประสงค์เพื่อเข้าครอบครองโลก โดยเหตุผลของความเห็นแก่ตัว-โลภ
เกรย์ จากโอเรี่ยน มี 2 แบบ แบบตัวใหญ่ และอีกแบบตัวเล็ก ตัวเล็กจะถูกโคลนนิ่งจากพวกตัวใหญ่ ซึ่งเรามองดูจะเหมือนกันราวกับตุ๊กตา-หรือปั๊มออกมาเป็นล็อตๆ

--เกรย์ จะมีจุดอ่อนในระบบทางเดินอาหาร และมีจิตสำนึกร่วมกัน ต่างกันกับพวกเราที่มีจิตสำนึกเดี่ยวเฉพาะบุคคล
--ศาสนาของเกรย์ คือวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ทางจิตวิญญาณ
--โครงส้างทางสังคม คือการเคารพเชื่อฟัง และทำหน้าที่
--การยึดโลก จะใช้การควบคุมจิตมนุษย์มากกว่าใช้กำลัง--ตามความเห็น
ของผม ใรอเมริกา น่าจะเกิน 80เปอร์เว็นต์ที่เขาควบคุมได้--บางประเทศแถบฝรั่งเศส ถึง 100 เปอร์เซนต์-ที่มีอุปกรณ์ฝังอยู่ในตัวคน
---ตาม ข้อมูลล่าสุด เค้าได้ขายประเทศให้กับเกรย์เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในภาวะจำยอม เนื่องจากเทคโนโลยี่ทางอาวุธ ยังห่างชั้นจากเกรย์มากนัก ประมาณว่า ดร.กับเด็กอนุบาล
---ในโครงการก รัดจ์ ได้เกิดการวิวาทกันระหว่างนักวิทยาศาสตร์ที่เห็นพวกเกรย์เอาคนไปผ่าทำเป็น มนุษย์แมงมุมหกขา อะไรต่างๆ(จะมองมนุษย์เหมือนคนใจบาปมองดูเป็ดไก่ เตรียมชำแหละ) จนหน่วยเอ็มเจ-12 ได้เข้ามาเคลียร์ อาวุธทุกชนิด ทำอันตรายพวกเขาไม่ได้ หน่วยเอ็มเจ 60คน เสียชีวิตทั้งหมด--องค์การลับได้สั่งหยุดการทดลองร่วมทันที--นักวิทยาศาสตร์ ได้กลับบ้าน และแอบเอาเอกสารลับออกมา บอกญาติว่าถ้าพวกเขาถูกฆ่าตายให้แฉเอกสารทันที
---นี่คือที่มาของการรั่วไหลของข่าวจาก แอเรีย 51 และที่อื่นๆ
--โดย ที่อเมริกามีกฏหมายใหม่ ให้คนทั่วไปสามารถขอดูเอกสารของทางการได้แต่เอกสารเกี่ยวกับยูเอฟโอ จะถูกลบด้วยหมึกสีดำ ดูได้ที่เวป The black Vault แต่ก็พอมีเค้าเงื่อนให้ติดตามได้ ว่ามีจานบิน และเอเลี่ยนอยู่จริง
---อำนาจ และเทคโนโลยี่เป็นสิ่งจำเป็น ในที่สุดองค์กรลับ ที่ชื่อเหมือนสีทาบ้าน ก็ยอมกลับไปทำงานกับพวกเกรย์อีก ทิ้งช่วงไป 2 ปี
--ใต้ ดินแถวแอเรีย 50 มีฐานใต้ดิน 7 ชั้น มีชาวต่างดาวกว่าหมื่นคน ทำงานวิจัยร่วมกับมนุษย์ เช่นการส้ร้างเครื่องบินเร็วกว่าเสียง 8 เท่า วิศวพันธุกรรม
อะไรต่างๆ โดยมีงบลับ ที่ถ้ารู้ตัวเลขแล้วจะสลบ มะกันทุ่มสุดตัว--เพราะอยากเป็นเจ้าโลก-ทั้งงบที่มาจากกลุ่มเศรษฐียุโรป เงินที่ได้จากการขายยาเสพติด--ให้กับคนในชาติของตัวเอง
--นักวิทยาศาสตร์ ที่เคยทำงานในนั้นถึงกับบอกว่า หมดหวังกับอนาคตของโลกแล้ว เพราะพวกนี้เข้าคุมทุกอย่าง รวมทั้งเรื่องเงินทอง-ไอเอ็มเอฟ แม้กระทั่งรายได้จากเว็ปโป๊-ที่มากมายมหาศาล
--เด็กผู้หญิงคนหนึ่งออกมา โวยวายบอกว่า เพื่อนหล่อนทั้ง 7 คน น่าจะเป็นตัวโคลนนิ่งทั้งหมด--อีกคนเคยทำงานองค์กรลับ บอกว่า พ่อเค้าก็เป็นตัวโคลนนิ่งเหมือนกัน
--จานบินตกที่รอสเวลล์ เป็นการจัดฉาก เพื่อจะอ่อยเหยื่อให้องค์การลับ เข้ามาดูแลเรื่องนี้ และก็สมใจ เกรย์สยายปีกไปทั่วโลกแล้ว
--เกรย์ได้ติดต่อลับๆกับรัฐบาลของมหาอำนาจประมาณ 5 ชาติ เพื้อแลกเปลี่ยนในแบบเดียวกัน--- เทคโนโลยี่กับชีวิตมนุษย์ตาดำๆ

การ กินอาหารของเกรย์ จะใช้เครื่องชูรส และต่อมต่างๆ ที่มีฮอร์โมน ได้จากการสกัดจากอวัยวะมนุษย์ และสัตว์ โดยจะอมไว้ใต้ลิ้น บางข่าวบอกว่าเกรย์จะลงอาบในสารละลายที่ว่านี้ เพื่อให้ซึมเข้าในตัว
--เดิม ทีเกรย์ก็มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ แต่เนื่องจากการรบกันเอง โดนรังสีโดยตรง และตกค้างหลายพันปี จนยีนส์เสื่อม--นอกจากนั้น อะตอมที่
รับ รังสีอย่างแรงนานๆ ทำให้เกิดการบิดเบี้ยวของเวลา-อวกาศ ทำให้ดวงดาวของพวกเขาเหมือนยานอวกาศที่สามรถวาร์ปผ่านรูหนอนเข้ามาใกล้โลก มากขึ้น--เนื่องจากการแบ่งแยกอัตตา ทำให้เกิดสงคราม พวกเขาจึงสร้างจิตสำนึกร่วม
โดยใส่ไว้ในยีนส์--รวมทั้งเกรย์บางพวกก็ใส่ ยีนส์ของพืชเข้ามาด้วย--จึงกินอาหารน้อยมาก ใช้พลังงานน้อยแบบพืช--มีแร่ในหินแถบเนวาด้า ที่เป็นพวกเหล็ก ที่เขาต้องใช้เป็นอาหาร จึงนับว่า เหมาะสม ที่อยู่แถบนั้น
--เกรย์คิดว่า รักร่วมเพศแบบโฮโมเซ็กชวล-ชายรักชาย ไว้ประโยชน์ จึงร่วมกับองค์กร์ คิดเชื้อโรคเอดส์ขึ้นมาสำเร็จ และทดลองในเขต
-สงวนของอืนเดียน 4 จุด
นอก นั้นส่งให้เป็นวัคซีนของ องค์การอนามัยโลก---จนแพร่มากในแถบอัฟริกา--ซึ่งไม่ได้มีสังคมมั่วเพศ--จนคน ที่นั่นสังเกตว่า คนที่ไปหาหมอ ถูกฉีดยามา จะเป็นเอดส์ทุกคน--และอเมริกาก็ขายยาต้านเอดส์แพงๆอีก---จริงๆแล้ว-เอดส์หาย ได้โยไม่ต้องใช้ยา--ใช้สนามไฟฟ้าแรงสูง ความถี่สูงหลายจิกะเฮิทซ์ วันละ 2ชั่วโมง ประมาณ 10 ครั้ง เอดส์จะหายไปเอง--ข้อมูลจากเว็ปอังกฤษ เกี่ยวกับ เอเลี่ยนเบส--บอกไว้ละเอียดว่า ไรส์ไทม์ ฟอลล์ไทม์เท่าไหร่ --ข้อมูลที่ผมหายไปแล้ว
---แล้วไวรัส หวัดนก หวัดหมู ซาร์ โรคสมองฝ่อ --ซึ่งมนุษญ์เรายังไม่มีเทคโนโลยีดัดแปลงไว้รัสได้--จุดประสงค์คือทำลาย มนุษย์และแหล่งอาหาร คือ เนื้อวัว เนื้อไก่--ให้พวกเราอดตาย
---มี เทคโนโลยีการถอดวิญญาณของมนุษย์ออกมาขังไว้ เก็บข้อมูลความทรงจำและดีเอ็นเอ ไว้ในเครื่องคล้ายๆคอมพิวเตอร์ -สร้างตัวโคลนนิ่งได้ ใน 3 ชั่วโมง แล้วอัดความจำและวิญญาณกลับไป โดยจะฝังพวกชิป และฉีดยาบล็อคสมองไว้ (การฝังมี 2 แบบ ฝังเป็นวัตถุ และ ไม่มีวัตถุ เป็นก้อนพลังงาน)ร่างเดิมเอาไว้ทดลองต่อไปได้อีก--รีไซเคิ่ล

--สวัสดี ครับ นอนดึกกันดีนะครับ--เกรย์ชั่วร้าย ก็ร้ายจริงๆ แต่เป็นเพียง 5 เปอร์เซนต์ของชาวต่างดาวที่เราได้พบนะครับ--บางพวกอยู่ในโลกมาเป็นแสนปี-- โดยอยู่ใต้ทะเล เป็นเมือง มีประชากรเป็นแสนๆ--คนที่ได้พบมนุษย์ต่างดาว จะถูกข่มขู่ โดยชายชุดดำ บางพวกก็มีนามบัตรของ ทางนาซ่า หรือเอ็นเอสเอ
--แต่ส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่อยู่ใต้ทะเล พวกนี้จะโหดเหี้ยมมาก
พวกที่มาจากดาวพลีอิดเดี้ยนจะดี เป็นผู้หญิงก็จะสวยน่ารัก อายุยืนราว 400กว่าปี
--เดิมที ในสมัยของทรูแมน ได้พวบยานบินตกที่เมกซิโก แต่ทางการอเมริกาได้ขอเอาซากยานและศพมาดื้อๆ พบว่า เป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายแมลง และพบว่าไม่มีความรู้พอที่จะวิเคราะห์ระบบขับเคลื่อนของยานได้
--ต่อมา ได้พบยานตกอีก มีสิ่งมีชีวิตรอดตายมา 1 ตัว พบว่าไม่ค่อยกินอาหาร ใช้พลังงานน้อย ได้พา ดร.ด้านสัตว์ไปวิเคราะห์ ปรากฏว่า งง ครับ
ดร.ว่า ระบบเหมือนพืช จึงให้ ดร.ทางพืชเข้าไปดู พบว่า โอเค เหมือนพืชมาก
ปี แรกๆ พยายามสื่อสาร แต่เขาจะพูดไปอีกทาง หรือหลบเลี่ยง ปีที่ 2 พูดมากขึ้น ตั้งชื่อว่า EBE(extra-terrestrial biological entities)-- สิ่งมีชีวิตทางชีววีทยา จากต่างดาว ซึ่งก็คือ เกรย์ตัวแรกนั่นเอง ปีที่ 3 EBE ตายเรียบร้อย
อาจจะทดลองกะเค้ามากมาก เฉามือตายเลย
เวปเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว พลีอิดเดี้ยน http://www.pleiadianlight.net/ เสิชหาคำว่า pleiadian
คนกับเกรย์สมานฉันท์ ทำงานร่วมกัน
http://www.youtube.com/watch?v=xXIWKQOu-k8&feature=related
human worked with aliens-area51

Dr. Joshua David จบทางจิตวิทยา ได้ค้นคว้าเรื่องลี้ลับต่างๆทางศาสนา องค์กรลับทางศาสนา และเรื่องต่างดาว ได้พบกับคนทรง แบบแชนเนิลลิ่ง โดย วิญญาณชื่อ Vynnamus ได้พูดภึงภารกิจที่ชั่วร้ายของเกรย์เช่นกัน
---ชาว พลีอิเดี้ยนได้กล่าว ถึงการแกล้งทำจานบินตกที่รอสเวลเช่นกัน เป็นการยืมดาบฆ่าคนของชาวเกรย์ ใช้องค์กร์ลับปั่นป่วนไปทั่วโลก สร้างสงครามกลางเมือง เพื่อขายอาวุธ เข้ายึดแหล่งทรัพยากร เชื่นเหมืองทอง เหมืองเพชร น้ำมัน
-- สิ่งมีชีวิตต่างดาวที่เป็นกายเนื่อ มองเห็นได้ มีเป็นบางส่วน บางส่วนเป็นพวกกายทิพย์ บางทีจะเห็นเป็นเงาๆ หรือจะเห็นได้ในรูปถ่าย เนื่องจากพวกเกรย์ หรือพวกอื่นมีอุปกรณ์ที่สามรถสลายร่างให้เป็นพลังงานได้ แต่ก็อาจเห็นได้จากกล้องถ่ายรูป ตาเรามองไม่เห็น

ปี1989-1973 จากรายงานของ MJ-12 มีการลักพาตัวประมาณหลายพันรายแล้ว
-ปี 1979 หน่วยเดลต้าฟอร์ซพยายามจะลงไปปล่อยคนที่ถูกจับมาทดลอง
บางรายเป็นเด็กถูกฆ่าเอาอวัยวะเป็นอาหารของเกรย์ ทหาร 66 ถูกฆ่าตายทั้งหมด ไม่เหลือรอดสักคน
--1984หน่วย MJ-12 ส่งสครืปท์เรื่อ อีที และ Close Encounter of the third kindพร้อมช่วยโปรโมทอย่างลับๆ เพื่อสร้างภาพ ให้ชาวต่างดาว ดูน่ารักสำหรับมนุษย์และการแลกเปลี่ยนประชากรตามหนังเรื่องที่2 ก็เกิดขึ้นจริงๆ
---ภาพยนต์ ดิเอ็กซ์ไฟล์ ส่วนใหญ่มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง--ล่าสุด Taken
จาก ผสปิลเบริก ผู้สร้างเรื่อง อีที ก็สับแหลก การกระทำของเกรย์ และองครฺกรลับที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง มีทั้งกองทัพสามเหล่า ,หน่วยความนั่นคง, หน่วยราชการลับ--องค์กร อิลลูมิเนตติ -ไตรเลทเทอราล และ พวก บิลเดอร์เบอร์เกอร์(บิลเกตต์และเชื้อพระวงศ์ยุโรปก็เป็นพวกนี้-กุมบังเหียน โลก-สำนักงานใหญ่อยู่ที่สวิส)---อันนี้เพิ่มเติมจากผมเองครับ

-ปี1979-1983 จากรายงานของ MJ-12 มีการลักพาตัวประมาณหลายพันรายแล้ว
-ปี 1979 มีการทะเลาะกันเรื่องการทดลองของเกรย์-หน่วยเดลต้าฟอร์ซถูกเรียกเข้ามา พยายามจะลงไปปล่อยคนที่ถูกจับมาทดลอง ซึ่งบางรายเป็นเด็ก-ถูกฆ่าเอาอวัยวะเป็นอาหารของเกรย์ ทหาร 66 นาย ถูกฆ่าตายทั้งหมด ไม่เหลือรอดเลยสักคนเดียว
--1984--หน่วย MJ-12 ได้ส่งสครืปท์เรื่อ อีที และ Close Encounter of the third kind พร้อมช่วยโปรโมทอย่างลับๆ เพื่อสร้างภาพให้ชาวต่างดาว ดูน่ารักสำหรับมนุษย์เรา---และการแลกเปลี่ยนประชากรตามหนังเรื่องที่2 ก็เกิดขึ้นจริงๆ
---ภาพยนต์ ดิเอ็กซ์ไฟล์ ส่วนใหญ่มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง--ยังมี ไอดีโฟร์-การ์ตูนเรื่องมนูษญ์ดาวอังคารล่าสุด Taken-จากสปิลเบริก ผู้สร้างเรื่อง อีที ก็ได้สับแหลก แฉการกระทำของเกรย์ และองครฺกรลับที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง มีทั้งกองทัพสามเหล่า ,หน่วยความนั่นคง, หน่วยราชการลับ--องค์กร อิลลูมิเนตติ -ไตรเลทเทอราล และ พวก บิลเดอร์เบอร์เกอร์(บิลเกตต์และเชื้อพระวงศ์ยุโรปก็เป็นพวกนี้-กุมบังเหียน โลก-สำนักงานใหญ่อยู่ที่สวิส)---อันนี้เพิ่มเติมจากผมเองครับ

ขอแก้ ข่าวเรื่องรอสเวลล์ ในยานลำนั้นมีเกรย์ 4 ตัวครับ ตายทันที 1 ตัว และช่วง 1984 MJ-12 ก็เตรียมจะแถลงความจริงเรื่อง EBE สู่สาธารชนเช่นกัน และยังมี นายมัวร์ ได้เขียนเรื่อองจานบินตกที่รอสเวลล์ไว้อย่างละเอียด จึงได้เชิญนาย มัวร์ มาอัดวีดิโอไว้ด้วย มีการอ้างถึงพระเยซูคริสต์ EBE ก็รับมุขทันที โดยอ้างว่าพวกตนนี่แหละได้ทำการการสร้างพระคริสต์ขึ้นมา โยวิธีทางพันธุกรรม และมีการฉาย
วีดิโอโฮโกรมสามมิติ ตั้งแต่กำเนิดของโลก จนกระทั่งการถูกตรึงการเขน แต่ภาพไม่ได้ชัดเจนนัก เพราะระบบของภาพยนต์ไม่เข้ากันทางความเร็ว แต่ผลกระทบนี้ มีมากมายมาหาศาลต่อชาวโลก เพราะความเชื่อทางศาสนาที่มีมานับพันปีจะถูกสั่นคลอน และถอนออกไปจากจิตใจมนุษย์ ทำให้เรารู้สึกเคว้งคว้างว่างเปล่า-- ทำไมพระเจ้าจึงกลายเป็นชาวต่างดาวไปได้เล่า
หลังจากพวกนักวิชาการได้วิเคราะห์แล้ว จึงงดการเผยแพร่ภาพยนต์ดังกล่าวอย่างสิ้นเชิง

--ทาง ศาสนาพุทธก็มีเรื่องสัตว์หรือผีที่ตามองไม่เห็น ตัวสูง แขนขายาว ปากเท่ารูเข็มเรียกว่าพวกเปรต เกรย์ก็เช่นกัน ไม่สามรถจะพูดได้ ใช้เพียงพลังจิตในการสื่อสาร ซึ่งพบว่า นายพันทหารอากาศคนหนึ่งสามรถสื่อสารกับเกรย์ได้ และทำหน้าที่นี้โดยตลอด--มีคลิปในยูทิวบ์นะครับ
--จริงๆแล้วพวกเขา ตั้งใจจะเปิดเผยคลิปนี้ต่อสาธารณะชน แต่เกิดการตกต่ำทางตลาดหุ้นอย่างหนัก--คิดว่าจะกระทบใจประชาชนมากเกินไป คลิปก็ถูกเก็บเงียบไป

จากการสำรวจของทางกองทัพอเมริกัน แยกเกรย์เป็น 3 แบบ
1. เกรย์ ชนิดที่ 1 สูง 3ฟุตครึ่ง หัวโต ตาโต หัวตาเฉียงลง เก่งและเคารพเทคโนโลยีเป็นศาสนา ไม่คิดร้ายต่อมนุษย์
2. ชนิดที่สอง นิ้วมือมีรูปแบบต่างออกไป หน้าตาต่างออกไปเล็กน้อย จะมีความซับซ้อนทางจิตใจ ใช้สามัญสำนึกเป็น และไม่ต้องการสารจากอวัยวะสัตว์ก็อยู่ได้
3.เกรย์ชนิดที่ 3 ปากจะบางกว่า และเชื่อฟังคำสั่งของ สองพวกแรกเป็นอย่างดี
--พวกอื่น เรียกว่า พวกผมบลอนด์ ชาวสวิส หรือ นอร์ดิกส์ เหมือนมนุษย์เรา
แต่ ไม่ค่อยปรากฏตัว หรือจุ้นจ้านกับมนุษย์ เพราะถือกฏสมาพันธ์กาแลคติก คือการไม่แทรกแซงสังคมมนุษย์ ยกเว้น เมื่อการกระทำของเกย์ส่งผลร้ายต่อสังคมมนุษย์อย่างรุนแรงและเฉียบพลัน
--มนุษย์หลากหลายมิติ--สามรถมาในรูปร่างต่างๆ นิสัยรักสงบ
--คนแคระ สูง 4 ฟุต หนัก 35 ปอนด์ มีหนวดเครา ไม่ทำร้ายสิ่งมีชีวิตที่ฉลาด
--พวกตัวสูง สูง 7-8 ฟุต ผมบลอนด์
--ตัวคล้ายมนุษย์ อาจจะเป็นลูกผสม หรือแอนดรอย์ เป็นลูกมือของเกรย์
--ชายชุดดำ ใส่หมวก ใส่แว่นดำ ผิวซีด ไวต่อแสง ไม่ชอบแสงสว่าง
บางทีก็เป็นภาพลวงสามมิติ(โฮโลแกรม)
--บาง ทีก็เดินหลบพวกเดียวกันไม่ได้ ต้องบอกให้คน ช่วยย้ายออกไป-และมีสายไฟโผล่มาจากรองเท้า--อาจเป็นหุ่นยนต์ หรือตัวโคลนนิ่ง--ผมเคยอ่านมาน่ะครับ

อืม ลืมบอกไป นอกจากพวกที่อาศัย ใต้ดิน ใต้ทะเลแล้ว มีอีกพวกที่อยู่ ใจกลางโลกเลย พวกนี้มีหลายเผ่า พลังจิตสูงมาก มีผู้เข้าไป และถ่ายภาพยนต์ไว้ แต่ทางการสหรัฐพยายามปิดข่าว และโต้แย้ง แบบร้อนตัว ---ทุกวันนี้ ลูกหลานของนายพลที่ถ่ายหนังไว้ ก็สืบทอดเจตนารมร์อยู่ครับ เขากล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐต้องรู้เรื่องพวกนี้ดี และรู้มานานแล้วด้วย
--มนุษย์หลายมิติ พวกเขาบอกว่า โลกของก้อนหิน-ไม่มีชีวิต ถือเป็นมิติที่ 1
สำหรับเขา พวกพืชก็เป็นมิติที่สอง พวกสัตว์ มนุษย์ ก็เป็นมิติที่สาม
บาง ครั้ง พวกเขาก็ติดต่อไปยังมิติที่หนึ่งเหมือนกัน ถ้าไม่นับมิติกาลเวลาเป็นมิติที่ 4 ให้แยกออกมาเสีย มนุษญืกำลังก้าวเข้ามิติที่ 4 หรือความหนาแน่นที่ 4 โดยพวกเขาจะทำการล้ายโลกบางส่วน และ ดวงอาทิตย์ไปด้วย
พวกเขาบอกว่า โดยทำการกลับสปินของอะตอม ไป 90องศา ก็จะเกิดสิ่งใหม่ คือเราจะเข้าสู่กาล-อวกาสใหม่ของมิติอื่น พวกเขาบอกว่า สามารถ
ย้าย สสารและมนุษย์ได้โดยวิธีนี้ ส่วนใหญ่จะพาไปที่ใต้ทะเล เพื่อตรวจสอบ แล้วส่งกลับมาแบบเดิม มิติที่พวกเขาอยู่ จะมีความเร็วของอะตอมมากกว่าของเรา 17 เท่า และมีความเล็กละอียดมากกว่า รวมทั้งแสงในมิตินั้นก็เร็วประมาณ 17เท่าของมิติเรา
---ปัจจุบันการ คำนวณทางทฤษฎีสตริง พบว่า มี มิติ ที่ 10 11 และมีถึง 26 มิติ จากการคำนวณ แต่ในทางการมองเห็น หรือความเข้าใจ เราไม่อาจเข้าใจได้ เช่น เราวางกระดาษบางมาก บนโต๊ะ มองลงไป ก็จะเห็นแผ่นกระดาษ เป็นสองมิติ กว้าง-ยาว แต่มองขนานกับขอบโต๊ะ ก็จะไม่เห็นกระดาษ เพราะเรามองดูมิติที่ 3 ซึ่งกระดาษมีแค่สอง เมือเข้าสู่มิติสูงๆ ประมาณ 7 เราก็จะเห็นสิ่งรอบตัวหายไป เพราะกาล-อวกาศ(ที่ว่าง)-time-space ม้วนตัวกลับสู่จุดกำเนิด ทั้งจักรวาลกลายเป็นจุดสามมิติเล็กนิดเดียว หรือหายไปเลย
--ลองค้นในยูทิวบ์ก็มีครับ วัสดุ 4 -5 มิติ และ คลิป 10 มิติ

http://www.youtube.com/watch?v=wRbj9dCmTAY&feature=related
หา ในยูทิวบ์สิครับ เยอะมาก แล้วที่เดินตัวเป็นเป็นๆ เค้าถ่ายคลิปมาได้จะให้เรียกว่าอะไรครับ มนุษย์พิการหรือ ความจริงที่ Mr.Terran เขียนไว้ยังแปลกกว่านี้อีกนะครับ เช่น จานบินแบบต่างๆ หน่วย MJ-12 ยังได้การตอบรับที่ดีกว่านี้มาก หรือว่า เราจะไม่ยอมรับสิ่งใหม่ๆ ความคิดใหม่ๆ ก็โยนโทรศัพท์มือถือของคุณทิ้งไปเถอะครับ เพราะการใช้ความถี่ต่างๆนี่ พวกเกรย์คิดเอาไว้ให้ รวมทั้งคอมพิวเตอร์ เตาไมโครเวฟด้วยครับ--บางท่านยังภูมิใจกับการยึดสนามบิน เอ๊ย การยึดครองโลกอย่างเงียบๆ ของเกรย์ หรือชาว ซีต้า ก็ตามใจพวกท่นเถอะ ไม่มีใครบังคับ
--เจ้าลัทธิ ฟาหลุนกง กล่าวว่า คอมพิวเตอร์ที่เราใช้ มนุษย์ต่างดาวคิดทำไว้ให้ พวกนี้จริงๆ หน้าตาเหมือนผี และปลอมตัวอยู่ปะปนกับพวกเรา
---แล้วเอกสารเกี่ยวกับยูเอฟโอ กองพะเนินเทินทึก จะอธิบายว่าอย่างไร แม้แต่คู่มือของหน่วย MJ-12 ก็บ่งบอกถึงการทำงานกับพวกมนุษย์ต่างดาวไว้อย่างชัดเจน ผมเคยมีภาพแบบแปลนของจานบิน เป็นภาษาเยอรมัน เพราะนาซีก็ได้สร้างจานบินไว้หลายแบบ
--สิ่งเหล่านี้รอพวกท่านค้นพบอยู่ ครับ เพราะท่านก็มีสิทธิที่จะรู้ และมีเน็ต มีเครื่องที่เร็วกว่าของผมอีกครับ รู้เพื่อให้เกิดปัญญา ไม่สนใจก็คิดว่าเป็นนิยายก็แล้วกันครับ

ที่เชียงราย เชามื่อหลายปีก่อน ชาวบ้านที่เห็นมนุษย์ต่างดาวลอยตัวเหนือนาข้าว แล้วให้สัมภาษณ์สื่อ หลังจากนั้นตามืดบอดหมดครับ ประมาณ 7 คน หมอตรวจแล้วบอกว่า เลือดไปเลี้ยงตาไม่พอ อาจเป็นเพราะความเครียด ทำไมต้องเป็นคนพวกนี้เท่านั้นที่ตามืดบอด หรือพวกนี้ ใช้พลังจิตทำให้พวกเขาเป็น
เพื่อสั่งสอน ข่าวต่อจากนั้นก็ไม่มีอีกครับ แต่ถ้าไปบอกวาเป็นลูกโป่งพองลม พวกเค้าจะบอกว่า มีคนเห็นเยอะ และไม่ได้ตาฝาด ตอนลอยขึ้นไป ยังชะโงกหัวมามอง เปลี่ยนเป็นสีเทา และยืดตัวยาวออก
เกรย์จากดาว ริเกล-Rigel คือพวกที่ติดต่ออย่างลับๆ กับรัฐบาลอเมริกา
พวกนี้จะมีผิวสีเหลืองแกมเขียว จะเปลี่ยนเป็นสีเทา เมื่อป่วย หรือตายเท่านั้น
-วิธี ตรวจสอบ โดยใช้สามัญสำนึกเบื้องต้นนะครับ --ทำไม รบ.อเมริกัน จึงสามรถแซกแซง เข้าโจมตี ทำลายทุกประเทศ ที่สงสัยว่าจะมีการซ่องสุม วางกำลังเพื่อจะทำร้ายประเทศของตน โดยที่ประเทศอื่นมีการคัดค้านน้อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหประชาชาติ พี่ใหญ่ของเรา กลับเอาหูไปนาเอาตาไปไร่-ทำหลับตาอุเบกขาซะได้ บางประเทศ เช่น อินโดนีเซีย กับการต่อต้านการแบ่งแยกดินแดน ซึ่งทำอย่างโหดเหี้ยม สหประชาชาติได้จัดการนำกองกำลังร่วมเข้าไปหย่าศึกโดยทันที มันจะต้องมีการเมืองลับๆ อยู่เบื้องหลังการกระทำของชาติต่างๆ รวมทั้งการโจมตีค่าเงินบาท ค่าเงินสกุลต่างๆ ตามด้วยไอเอ็มเอฟ ว่ากันว่า ก็คือแผนยึดประเทศต่างๆให้เป็นเมืองขึ้นทางเศรษฐกิจนะครับ เดิมทีไทยก็เคยได้รับเงินช่วยเหลือจากอเมริกาทางการต่อต้านยาเสพติด แต่หลายสิบปีนี้ไม่ได้เลย เพราะทางอเมริกาไม่นิยมเสพยาบ้า--องค์กรลับนี้ได้มีกองเรือติดอาวุธ และการค้าฝิ่นในลาว ผ่านในรูปของ บ.แอร์อเมริกา ก็มีมานานแล้ว-พูดมากไปก็อันตรายต่อตัวผมเอง
---พี่สาวผมดูจะไม่ค่อย เชื่อเรื่องชาวต่างดาว แต่ในฐานะที่เธอก็อยู่ในประเทศเมกามาหลายปี เธอบอกว่า มันน่าแปลกใจ ที่สมัย 100-200ปีก่อน ไทยกับอเมริกาเจริญเท่ากัน มีปืนสั้น ปืนยาว ปืนใหญ่ แต่ ในช่วงหลัง อเมริกาเจริญในด้านเทคโนโลยีอย่างผิดสังเกต พวกเค้าเอาความรู้ต่างๆมาจากไหน รู้ด้วยว่าเทคโนโลยี่จะเติบโตไปในทิศทางใด ซึ่งถ้าไม่มีแนวทาง ลองผิดลองถูก ก็ยังไปได้ช้า--เรียกว่าจากสมัยทรูแมน มาถึงปัจจุบัน การเติบโต เป็นไปอย่างก้าวกระโดดจากเครื่องคิดเลขเอามือโยก กลายเป็นคอมพิวเตอร์ จากโทรเลข กลายเป็นโทรศัพท์มือถือ
--ส่วนนี้เรา สามารถมองได้จากทางฝั่งยุโรปอีกส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะบริษัทชั้นนำของยุโรป-เชื้อพระวงศ์ยุโรปบางประเทศ ได้เป็นสมาชิกกลุ่มบิลเดอร์เบอร์เกอร์ ซึ่งเราสามราถค้นย้อนหลังไปได้ว่ามีการประชุมมากี่ครั้งแล้ว จัดขึ้นในยุโรปบ่อยมาก-สื่อต่างๆก็พยายามติดตามอยู่ จริงๆแล้วพวกนี้ไม่ง้อเทคโนโลยี่จากกลุ่มของเกรย์ก็ได้ เพราะคิดต่ออยู่ประมาณ 35ดวงดาว ตลอดเวลา-เหล่านี้แหละคือกลุ่มชั่วของจักรวาล เรียกว่า กลุ่มภราดรภาพดำ ก็ได้--และกลุ่มภราดรภาพขาว-White Bratherhood ก็มี ซึ่งคอยเฝ้าดูพฤติกรรมของพวกนี้อยู่ รวมถึงสมาพันธ์กาแลกติก พลีอิเดี้ยน,อาร์คทอเรี่ยน ดาวอังคาร ,กลุ่มดาวพิณ-Lyra อีกมากมาย

เกรย์ จาก Zeta Retticulum มีความสามารถทางโทรจิต สามารถขยายสนามพลังจิตเพื่อให้ควบคุมจิตใจมนุษย์ได้ กลุ่มของพวกเกรย์ทั้งหมด ไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวกันนัก เพียงแต่คบหากันอย่างหลวมๆ โดยจุดประสงค์ร่วมกัน คือการยึดครองโลก โดยจะมองโลกในฐานะแหล่งเพาะมนุษย์-สัตว์ เพื่อใช้เป็นอาหาร ตลอดจนยังอาศัยเทคโนโลยี่บางออย่างที่มนุษย์ทำไว้เยอะมากในราคาถูกๆ เช่น RFID --ชิปขนาดจิ๋วที่รับ-ส่งข้อมูลวิทยุได้ ปัจจุบันมักใช้ในฉลากเสื้อผ้า ตามห้างใหญ่ๆ หรือตั๋วคอนเสริท ตั๋วทางด่วน -พวกเขาเอามาฝังในร่างกายมนุษย์ เพื่อ ตรวจสอบการเต้นของหัวใจ ภาวะของเลือด--ต่างๆ
ส่วนหุ่นยนต์และ คอมพิวเตอร์ของมนุษย์นั้นยังอ่อนด้อยในทางเทคโนโลยี่--พวก เขาแนะนำว่า การเขียนโปรแกรมให้หุ่นยนต์ทำงานนั้น มันไม่สามารถทำให้ถึงจุดที่มีสติปัญญาเทียมได้หรอก เพราะถ้าเขียนสักหมื่นบรรทัดเราก็งง และล้าแล้ว--การคอมไพล์ การรัน มันก็มีข้อจำกัด พวกเขายกตัวอย่างเช่น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ มีขนาดเท่าซองบุหรี่ ในขณะที่เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ของเราขนาดเกือบเท่าสนามฟุตบอล และของเขาไม่ได้ใช้สารกึ่งตัวนำพวกซิลิกอน--แต่เป็นพวกสารอินทรีย์ ซึ่งเดิมพวกเขาก็ใช้ได้ดี แต่ตอนหลังๆ มีชาวต่างดาวฝ่ายตรงข้ามสามรถทำการแฮก เจาะข้อมูลได้แล้ว จึงต้องมีการระวัง ควบคุมข้อมูลรั่วไหล

คนที่เก่งมากๆ เช่นโปรแกรมเมอร์ระดับๆ อาจจะมียีนส์จากต่างดาวก็ได้ครับ
เรียก ว่า Starseed ทับศัพท์เดี๋ยวจะเป็นเรื่องทะลึ่งไป พวกนี้มักฝันเห็นนรก หรือสวรรค์ รู้เหตุการร์ล่วงหน้า มีความคิดสร้างสรรค่อนข้างสูงกว่าปกติด แต่มักปวดหัวบ่อย ไม่ทนต่อดินฟ้าอากาศในโลกนัก ในหนังสือของ ดร.โจเซฟ บอกไว้เยอะมาก ของไทยก็มีนะคิดว่าผ่านตา ผมเคยอ่านแล้ว--ถ้าสนใจก็บอกเอาไว้ก็แล้วกันครับ
----ลืมไปอีกอย่างคือ ในฐานทัพใต้ดิน แถวแอเรีย51--ปัจจุบันคงย้ายมาแถว Groom Lake แถวๆนั้น มีชาวต่างดาวอีกกลุ่มคือพวก เรปติเลียน-Reptilian
(ผมชอบเรียกเป็นแบบ ฉพาะตัวว่า มนุษย์กิ้งก่า)อยู่ด้วยกัน ทั้งสองพวกนี้ใช้ตัวอักษรเหมือนกัน--เป็นพวกอักษรภาพ หรือ เฮียโรกริฟฟิก--แต่ในเอกสารของทางการสหรัฐบางชุด กับในหนังสือ เล่มนี้ไม่ได้ระบุเอาไว้ คาดว่าคงไม่สำคัญเท่าพวกเกรย์--(บางกระแสก็บอกว่า เป็นภาษาเดียวกันกับภาษาดั้งเดิมภาษาแรกของมนษย์ที่ได้สาบสูญไปแล้ว-ชื่อว่า ภาษากูโบส -ใครชอบทางเจ้าเข้าทรงก็ลองไปสอบถามดู ถ้าเป็นเทพจริงจะต้องรู้ภาษากูโบสชั้นสูง เพราะ ภาษากูโบสมี 5 ระดับ 300 กว่าแม่ภาษา)
ในฐานใต้ดิน 7 ชั้นมีอุโมงต์ วิ่งไปหากันได้ทั่วประเทศสู่ฐานใต้ดินต่างๆ
จำ ได้ว่าใช้ระบบลม และสูญญากาศ ทำให้กระสวยวิ่งไปได้เร็วมาก--(บ.ที่รับจ้างขุด ชื่อ แรนด์คอร์เปอเรชั่น) และลิฟท์ที่ใช้ จะไม่มีสายลวดสลิงให้รำคาญ แต่ใช้ระบบของแม่เหล็กไฟฟ้าที่ชาวต่างดาวออกแบบแบบไว้

ในหนังสือนี้ ยังพุดถึงยีนส์ของมนุษย์ว่า มีส่วนของยีนส์ขยะ ยีนส์จากเชื้อแบคทีเรีย อะไรต่างๆ ซึ่งมีส่วนทำให้เราคิดว่า มนุษย์ถูกสร้างขึ้นโดยเทตนิควิศวพันธูกรรม--เพราะว่าสิ่งมีชีวิตที่ใกล้ เคียงกับมนุษย์คือลิง ก็จะไม่มียีนส์แบบนี้อยู่ ยิ่งยีนส์ที่เราเรียกว่ายีนส์ขยะ เหราะไม่แสดงผลต่อรูปร่างลักษณะ หรือความฉลาด แต่มันมีประโยชน์ คือเอาไว้เพื่อลักษณะพิเศษ
เช่นการมีพลังจิต โทรจิต อะไรต่างๆ ซึ่งปกติคนทั่วไปไม่ได้มี คือหายาก เราจึงขาดการทดลองในจุดนี้ไป
---จริงๆ แล้วที่เราเคยอ่านบทความทั่วไป เขาจะพูดว่า มนุษย์มียีนส์ของสัตว์แทบทุกอย่าง--แต่ไม่ได้เอามาเปรียบเทียบกับสัตว์อื่น ให้เห็นจะๆ ผมก็เพิ่งได้คิดตอนที่เขาเอามาเทียบให้ดู และเราลองนึกดูซิว่า ลิงตามป่าเขา ขาดซึ่งอาหารที่ครบ5 หมู่ ตากแดดตากฝน แต่เราไม่เคยเห็นลิงเป็นหวัด หรืออ่อนแอ อะไรทำนองนี้ สุนัขตัวเล็กๆอย่างรอดไวเลอร์ ลากรถ 6 ล้อได้สบายๆ ขณะที่มนุษย์จอไอฝนนิดเดียวเป็นหวัดเอาง่ายๆ อ่อนแอ ไร้สมรรถภาพเมื่อเทียบกับขนาดร่างกาย อะไรคือต้นเหตุของสิ่งเหล่านี้ นักพันธูวิทยาก็จะบอกว่า พวกสัตว์มียีนส์ ที่บริสุทธ์กว่านั่นเอง ถ้าจะให้วิเคราะห์พวกเค้าคงบอกว่า เป็นคลิปหลุด เอ๊ยไม่ใช่ ยีนส์หลุดจากห้องแล็บหมาดๆ ยังไม่ผ่านการทดสอบคิวซีเลย--อันนี้ต้องโทษชาวแอนนูนากิ ที่สร้างพวกเรามาไม่ดีพอ
---มีหลายอย่างที่ทำไปแล้วไร้คำตอบ เหมือนโครงการฟิลาเดลเฟีย--อืม เรือฟิลาเดลเฟียที่หายไป และปราหฏขึ้นที่เดิมนั้น มันได้ย้อนกลับตามกรแสขแงเวลา ไปอยู่ที่โรงงานที่สร้างมันขึ้นมา แต่ผลที่ตามมานั้น มีทหารเรือหลายคนถูกฝังอยู่ในเหล็กกระดูกงูเรื่อ และตายทันที บางคนเสียสติ บางคนที่ถูกกักตัวไว้ หายตัวได้เป็นพักๆ--ที่แปลกอีกอย่างคือถูกปลดล็อคเวลา-(Time Lock)
คือใน 1 เดือน จะแก่ขึ้น 1 ปี และตายอย่างเร็ว เพราะนาฬิกาในตัวถูกตั้งให้เดินเร็วเกินไปดังกล่าว ไม่ใช่แต่มนุษย์ พวกต่างดาวที่ใช้จานบิน ก็มีอาการเช่นนี้อยู่เหมือนกัน(ผู้เล่าเป็นน้องชายนายทหารที่ตายในการทดลอง)
-ขอ ประนาม องค์การ SETI ชื่อย่อนี้มาจากคำว่า ค้นหาสิ่งมีชีวิตต่างดาวอะไรทำนองนี้ ตั้งมาหลายสิบปี้ ใช้เงินไปมากมาย แต่ไม่สามราถหาร่องรอย
มนุษย์ต่างดาวมาได้สักรายเดียว หรือว่า อาจจะมีมากๆแล้วปิดข่าว--แม้กระทั่งทุกวันนี้ เซติก็เรียไรในทุกๆสื่อ แต่จะเอาเงินไปทำอะไร ไม่มีทั้งโครงการและผลงาน--เป็นคำถามที่ไร้คำตอบ--พูดแล้วเซ็งในหัวใจครับ
--ดู ภาพยนต์อินเดีย เรื่อง มหาภารตะยุทธ์ เพิ่งนึกได้-- เมื่อฤาษีทำนายไว้ว่า ทางฝ่ายเการพ หรืออะไรนี่จะมีพี่น้องเกิด 108 คน จากแม่คนเดียว ถึงเวลาคลอด
แม่ เค้าคลอดออกมาเป็นก้อนเนื้อครับ แล้วฤาษี ก็นำก้อนเนื่อนี้มาแบ่งใส่ภาชนะ คือหม้อดิน 108ใบ เก็บไว้ 1 ปี ทุบหม้อออกมาก็จะเป็นทารกชายทั้งหมด--ถ้าพูดไป อันนี้พวกนักเลงกล้วยไม้ทราบดี ว่าเป็นการเลี้ยงเนื้อเยื่อ หรือกับพืชอื่นๆ เราเรียกว่า ไม้ปั่นตา ถ้าเป็นทางคน-สัตว์ ก็คือการโคลนนิ่งเราดีๆนี่เอง เห็นไหมครับ
บอกแล้วว่า โคลนนิ่งไม่ใช่เรื่องใหม่--ในคัมภีร์รามายณะกล่าวถึง อาวุธของพระราม คือศรที่ไม่มีสาย แต่มีอำนาจทำลายล้างร้ายแรงเช่นเดียวกับหัวรบนิวเคลียร์--มีนักวิทยาศาสตร์ อินเดีย พยายามถอดคำพูดในคัมภรีที่กล่าวถึงวิมาน ก็ได้ภาพยานบินหลายชนิดหลายขนาด มีตัวกำเนิดพลังงาน เยเนอร์เรเคอร์ มีโลหะหลายชนิดที่ไม่มีในโลกนี้--ผมเคยมีรูป แล้วถ้าหาเจอจะนำมาให้ชมครับ--เรื่องชาวเกรย์จะจบแล้ว แต่ยังมีเรื่องชาวดาวอังคารในทำเนียบขาว 3ปี--ชาวมอธแมนไม่มีศรีษะ แต่บินได้ มีตาที่ไหล่ โปนโตสีแดง ชอบอยู่ตามป่าช้าเห็ฯเหตุการณ์ล่วงหน้า จนนำมาสร้างเป็นหนังไปแล้ว ,ชาวแอชตาร์คอมมานด์กับการแทรกแซงสื่อโทรทัศน์--ชาวอาร์คทอเรียนมาปกป้องโลก ในรูปของวิญญาณกุมารนับร้อย--เออันนี้เข้าห้องศาสนาดีกว่ามั้ง--ท่านสามรถ เข้าถึงเรื่องลึกลับทำนองนี้ได้อีกแบบหนึ่งคือ ถามจากผู้รู้ ผู้เก่งเรื่องสมาธิ ถ้าเก่งจริง ท่านจะต้องทราบอย่างแน่นอนครับ เพราะความจริงก็คือความจริง จะมองจากมุมไหน ก็ต้องเห็นวันยังค่ำ
--ผมเองโชคดีที่มีคนที่เก่งพลังจิตอยู่ใกล้ๆ สอบถามได้ทันที แต่ต้องเลือกเวลาหน่อยไม่งั้นเจอ จานบิน สากครกบิน
---กระทู้ นี้อยู่ในเรื่องลี้ลับ-รอการพิสูจน์ ยิ่งค้นก็ยิ่งรู้ครับ บริหารสมอง ยิ่งเรารู้ทันต่างดาวพวกนี้ ก็จะทำให้แผนการของพวกมันเปลี่ยนไป--ผู้อำนวยการคนแรกขององค์กรลับ เมื่อเครียมจะบอกข้อมูลจริง ถูกจับยัดโรงพยาบาลทหาร โดยสงสัยว่าบ้า และถูกแขวนคอลงมาจากหน้าต่าง อำพรางว่าฆ่าตัวตายเอง
--มีพวกนักวิทยาศาสตร์มากมายถูกฆ่า เช่นฆ่าแล้วเผาในรถยนต์ คนทั่วไปถูกข่มขู่
กระบวนการรักษาความลับยังดำเนินต่อไป
--บิล ลี่ เมียร์ เป็นผู้ที่เผยแพร่การติดต่อกับชาวต่างดาว--พลีอิเดี้ยน ทุกวันนี้ก็ถูกตามฆ่าจากกลุ่มต่างดาวที่เป็นศัตรู ,ชายชุดดำ และหน่วยงานทหารบางประเทศ--นี่เป็นสิ่งที่มนุษย์ต่างดาวที่มาจาก พร็อกซิมา เซ็นจูรี่ กาแลกซี่ ซึ่งอยูใกล้ๆเรา ห่างไป 55ล้านไมล์ บอกกับชายชาวเยอรมันที่ตั้งแค้มป์ในป่า (สื่อสารกันด้วยภาษาเยอรมัน โดยใช้เครื่องแปลภาษาที่เหน็บไว้ที่เข็มขัด)
--มีผู้นำศาสนาใหม่ๆ เช่น ภิกษุณีชิงไห่ ตลอดจนผู้รับสาสน์จักรวาลแบบแชลเนลลิ่ง เช่น Kryonเข้าสู่สหประชาชาติ ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดี มีการให้สัมภาษณ์ ปาฐกถา นับว่าโลกนี้ไม่สิ้นหวังเลยทีเดียว มีขบวนการยุคใหม่ ที่เรียกว่า นิวเอจ พวกนี้จะใช้ผลึกอัญญมณีในการรักษาสุขภาพ ความรู้ทางโยคะ แม้แต่ดนตรีก็ต้องเป็นนิวเอจ ว่ากันว่าคนพวกนี้เคยเกิดในทวีปแอตแลนติส
---รู้จัก คำว่า ระเบียบโลกใหม่- New World Oder ไหมครับ คำว่า Globalization หรือ Alternative III ผมว่ามันออกมาจากปาก-หรือเป็นแนวคิดชาวต่างดาวทั้งนั้น มันเป็นองค์ความรู้แบบใหม่ครับท่าน พอๆกับทฤษฎี โกหลาหล Chaos ที่ว่าผีเสือขยับปีกทำให้แผ่นดินไหว เด็ดดอกไม้สะเทิอนถึงดวงดาว

เกรย์ มีความสามารถทางการย้ายสสาร ที่สามรถเปลี่ยนสสารให้เป็นพลังงานแล้วย้ายไปสู่ที่อื่นๆโยอุปการณ์ที่ เหมือนกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋ว--ที่ผมได้กล่าวอ้างถึงความละเอียดของ อะตอมในมิติของพวกเขาที่มีความเร็วในการสั่นสะเทือนถึง 17 เท่าของโลกเรา พูดง่ายๆ ว่าอาจจะสูงกว่าเราประมาณ 17 มิติ ทำให้พวกเขาเดินทะลุกำแพง หลังคา หรือส่งเหยื่อที่ถูกลักพาตัวไปไก้ ทั้งๆที่นอนอยู่ในบ้านแท้ๆ
---อีกสิ่งหนึ่งที่อาจจะทำให้ท่านสับสน คือ ที่ว่า มิติที่ 1 คือ พวกก้อนหิน
มิติ ที่สอง ก็พืช เอาเป็นว่าใช้คำว่าความหนาแน่น(ทางจิตวิญญาณ)ก็แล้วกันครับ และหลายๆแหล่งยืนยันว่า พวกเรากำลังเริ่มเข้าสู่ความหนาแน่นที่ 4
โยจะ เห็นได้ว่า จะมีคนสนใจเรื่องลี้ลับ ผี เทพ นางฟ้า เรื่องจิตวิญญาณมากขึ้น ส่วนดาวดวงอื่นนะ เขาเข้าสู่ระดับ 4 กันหมดแล้ว รอพวกเราอยู่ครับแหะๆ
--ตาม ทฤษฎีไกอา ถือว่าทุกๆสิ่งมีความรู้สึก โลก ก็คือสิ่งมีชีวิตแบบหนึ่ง ต้องการจะยกระดับจิตวิญญาณแบบนี้เช่นกัน สิ่งที่เป็นตัวถ่วงก็คือมนุษย์
ดัง นั้น โลกจึงพยายามชำระล้างตัวเอง โดยการทำลายชีวิตมนุษย์บางส่วนออกไปบ้าง--อันนี้เป็นคำบอกจากต่างดาวผสมกับ ทฤษฎีไกอา--ไม่ได้อ่านการ์ตูน MMR มากนะนี่ รอบเดียวเอง--และจีโนมโปรเจค-ถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์ ก็ทำเสร็จแล้วด้วย
--ชาว อันโดรเมดา หญิงสาวชื่อ ไลอา เข้าพบนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังชาวเม็กซิกัน บอกว่า ผลการตรวจสอบ และคำนวณ คะเนชะตาของโลก นั้นเสร็จแล้ว และบอกว่าชาวโลกกำลังทำลายสิ่งแวดล้อมและตัวเอง เช่น การทดลองนิวเคลียร์บ่อยๆ เกิดความร้อนสูงๆ ทำให้พายุหมุนจะมีความเร็วสูง การทำลายล้างที่รุนแรง--(อันนี้ผมกำลังนึกเรื่องโลกร้อนอยู่ เรื่องอัตราการรับและสะท้อนความร้อนจากดวงอาทิตย์ อัตราการใช้น้ำมัน ถ่านหิน--แต่จุดนี้ลืมไปเลยจริงๆ--คนที่ทำไม่มีจิตสำนึกร่วมเลยนะ)---และตอก ย้ำว่า การทดลองสงครามเคมีของอเมริกาก่อให้เกิดเชื้อโรคเอดส์--ก็มีส่วนจริง เพราะไวรัสจริงๆเป็นแค่ผลึกโปรตีน ไม่ใช่เซลแบคทีเรีย
--มนุษย์จะพบพลังงานจากอวกาศ มันมาของมันเอง ไม่ได้เกิดจากอะไร
(ว่า กันว่า เทสลา ได้ค้นพบแล้ว ทุกหลังคาเรือน มีเสาอากาศ รับพลังงานมาใช้สบายไป--แต่พวกบิลเดอร์เบอร์เกอร์ขัดขวางเอาไว้ เพราะเก็บเงินค่าไฟไม่ได้)
--2015 จะพบพลังงานที่มาจากเสียง เธอบอกว่าที่ดาวของเธอสามารถใช้เสียง อุ่นให้ทั้งตึกมีความอบอุ่น โดยผู้อาศัยก็ไม่รำคาญเสียงนี้
(มีข่าวว่าอเมริกาได้ทดลอง ใช้ตลื่นเสียงกำจัดฝุ่นควันในอากาศ โดยไม่แจ้ง
สาธารณชน และผู้คนพากันพูดว่า อากาศสะอาดขึ้นมากอย่างผิดสังเกต)

เกรย์ มีความสามารถทางการย้ายสสาร ที่สามรถเปลี่ยนสสารให้เป็นพลังงานแล้วย้ายไปสู่ที่อื่นๆโยอุปการณ์ที่ เหมือนกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋ว--ที่ผมได้กล่าวอ้างถึงความละเอียดของ อะตอมในมิติของพวกเขาที่มีความเร็วในการสั่นสะเทือนถึง 17 เท่าของโลกเรา พูดง่ายๆ ว่าอาจจะสูงกว่าเราประมาณ 17 มิติ ทำให้พวกเขาเดินทะลุกำแพง หลังคา หรือส่งเหยื่อที่ถูกลักพาตัวไปไก้ ทั้งๆที่นอนอยู่ในบ้านแท้ๆ
---อีกสิ่งหนึ่งที่อาจจะทำให้ท่านสับสน คือ ที่ว่า มิติที่ 1 คือ พวกก้อนหิน
มิติ ที่สอง ก็พืช เอาเป็นว่าใช้คำว่าความหนาแน่น(ทางจิตวิญญาณ)ก็แล้วกันครับ และหลายๆแหล่งยืนยันว่า พวกเรากำลังเริ่มเข้าสู่ความหนาแน่นที่ 4
โยจะ เห็นได้ว่า จะมีคนสนใจเรื่องลี้ลับ ผี เทพ นางฟ้า เรื่องจิตวิญญาณมากขึ้น ส่วนดาวดวงอื่นนะ เขาเข้าสู่ระดับ 4 กันหมดแล้ว รอพวกเราอยู่ครับแหะๆ
--ตาม ทฤษฎีไกอา ถือว่าทุกๆสิ่งมีความรู้สึก โลก ก็คือสิ่งมีชีวิตแบบหนึ่ง ต้องการจะยกระดับจิตวิญญาณแบบนี้เช่นกัน สิ่งที่เป็นตัวถ่วงก็คือมนุษย์
ดัง นั้น โลกจึงพยายามชำระล้างตัวเอง โดยการทำลายชีวิตมนุษย์บางส่วนออกไปบ้าง--อันนี้เป็นคำบอกจากต่างดาวผสมกับ ทฤษฎีไกอา--ไม่ได้อ่านการ์ตูน MMR มากนะนี่ รอบเดียวเอง--และจีโนมโปรเจค-ถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์ ก็ทำเสร็จแล้วด้วย
--ชาว อันโดรเมดา หญิงสาวชื่อ ไลอา เข้าพบนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังชาวเม็กซิกัน บอกว่า ผลการตรวจสอบ และคำนวณ คะเนชะตาของโลก นั้นเสร็จแล้ว และบอกว่าชาวโลกกำลังทำลายสิ่งแวดล้อมและตัวเอง เช่น การทดลองนิวเคลียร์บ่อยๆ เกิดความร้อนสูงๆ ทำให้พายุหมุนจะมีความเร็วสูง การทำลายล้างที่รุนแรง--(อันนี้ผมกำลังนึกเรื่องโลกร้อนอยู่ เรื่องอัตราการรับและสะท้อนความร้อนจากดวงอาทิตย์ อัตราการใช้น้ำมัน ถ่านหิน--แต่จุดนี้ลืมไปเลยจริงๆ--คนที่ทำไม่มีจิตสำนึกร่วมเลยนะ)---และตอก ย้ำว่า การทดลองสงครามเคมีของอเมริกาก่อให้เกิดเชื้อโรคเอดส์--ก็มีส่วนจริง เพราะไวรัสจริงๆเป็นแค่ผลึกโปรตีน ไม่ใช่เซลแบคทีเรีย
--มนุษย์จะพบพลังงานจากอวกาศ มันมาของมันเอง ไม่ได้เกิดจากอะไร
(ว่า กันว่า เทสลา ได้ค้นพบแล้ว ทุกหลังคาเรือน มีเสาอากาศ รับพลังงานมาใช้สบายไป--แต่พวกบิลเดอร์เบอร์เกอร์ขัดขวางเอาไว้ เพราะเก็บเงินค่าไฟไม่ได้)
--2015 จะพบพลังงานที่มาจากเสียง เธอบอกว่าที่ดาวของเธอสามารถใช้เสียง อุ่นให้ทั้งตึกมีความอบอุ่น โดยผู้อาศัยก็ไม่รำคาญเสียงนี้
(มีข่าวว่าอเมริกาได้ทดลอง ใช้ตลื่นเสียงกำจัดฝุ่นควันในอากาศ โดยไม่แจ้ง
สาธารณชน และผู้คนพากันพูดว่า อากาศสะอาดขึ้นมากอย่างผิดสังเกต)

ความ สามรถทางสะกดจิตของพวกนี้ ทำให้การเข้าควบคุมประเทศต่างๆ ได้ง่าย เพราะแค่สะกดจูงจิตผู้นำคนเดียวก็เพียงพอแล้ว และยิ่งเมื่อใช้วัตถุ
ที่ ฝังเข้าในตัว-implants-จะยิ่งง่ายขึ้นอีก เคยอ่านที่เก็นเป็นชิปในโพรงจมูก ตรงต้นคอ-เคยเห็นแท่งแก้วผลึกที่ฝังไว้แถวหน้าแข้ง -บางอย่างเป็น ก้อนพลังงาน แต่ทำหน้าที่ได้เช่นกัน
--เกรย์ผสมพันธุ์โดยตรงกับมนุษย์ไม่ได้ แต่ทำได้ในแล็บ ดังนั้น จึงมี ลูกผสมต่างดาว--พวกหุ่นกึ่งมนุษย์-android
-- มีการลักพาตัวผู้หญิงจำนวนมากเรือนหมื่นเรือนแสน และทำให้ท้อง---อย่าคิดลึก--และยังโขมยลูกในท้องอีก การตัดอวัยวะสัตว์-Cattle Mutilation เกิดขึ้นทั่วไป เคยเห็นในยูทิวบ์ว่า วัวทั้งตัวถูกดูดลอยขึ้นไปด้วยลำแสงสีขาว--และบางแหล่งข่าวบอกว่ามีการ ชำแหละมนุษย์--อาจจะที่ WTC ด้วย--มีคลิปยูทิวป์ที่ไฟใหม้โรงแรมในปักกิ่งอย่างรุนแรง แต่ตึกไม่ยุบลงมา ทีเวิลด์เทรด ชึ้นล่างแทบจะเป็นโครงเหล็กทั้งหมด ไฟก็ยังไม่มาก ดันยุบลงมาได้--น่าคิดครับ
--ถือได้ว่าระดับการแทรกแซงสังคมมนุษย์ของพวกนี้ เข้าสูระดับสูงสุดแล้ว
--พวก นี้มีฐานทัพอยู่ทั่วโลก มากที่สุดในอเมริกา และมีในส่วนด้านมืดของดวงจันทร์ด้วย---มีข่าวว่านักบินอะพอลโลก็ไปนั่งจิบ กาแฟกันมาแล้ว
แถมยังไม่ต้องใช้หน้ากากออกซิเจนอะไร ผักก็ปลูกให้เชียวพรืดไปหมด ไม่ต้องกลัวใครเห็น เพราะด้านนี้ไม่เคยหันไปทางโลกเลย
--เกรย์ ตัวสูง จะมีอำนาจเหนือพวกซีต้า และพวกBeetletrax โดยจะมีฐานใหญ่ที่ใกล้เกาะ Aleutian สิ่งที่พวกเขารู้สึกว่าด้อยกว่ามนุษย์ ก็คือสืบพันธุ์เองไม่ได้ การโคลนนิ่งก็จะได้ตัวที่เล็กกว่า อ่อนแอกว่าเดิม

Lake Erie UFO, Again?

USAF Shoot Down UFO and Retrieve Occupants, 1948 (allegedly released foo...

First Contact - The October 14th Message

OVNIS en Cancun Mexico

Ufo in Belgium chased by air force F16's

Ufo chased by Russian mig!! Actual footage

Alien Pilots Revealed In UFO Footage

Roswell Alien Footage Released HD

ระบบ / ทุกข์มากหรือทุกข์น้อย

ในบางเรื่อง เป็นการยากที่บุคคลทั่วไปจะเข้าใจได้ ดังนั้น การที่จะทำตัวเองให้เป็นทุกข์ เพราะบุคคลอื่นไม่เข้าใจในสิ่งที่เราเชื่อนั้น ย่อมไม่เป็นการสมควรอย่างยิ่ง
เพราะทุกข์เกิดที่เรา และเราเป็นผู้รับผลของทุกข์นั้น

เพราะการที่จะไปเปลี่ยนคนอื่น ให้มีความความเชื่อ ความเข้าใจ ให้เหมือนกับเรานั้น เป็นสิ่งที่ยากมาก หรืออาจจะเป็นไปไม่ได้เลย

หาก มองในมุมกลับกัน ... การที่คนอื่นพยายามเปลี่ยนเราให้....."เลิกเชื่อ"....ในสิ่งที่เราเชื่อ ที่เราเห็นจริงนั้น เขาก็ย่อมเปลี่ยนเราไม่ได้เช่นกัน

ดังนั้น หากเขาจะทุกข์ เพราะเปลี่ยนความเชื่อให้เราเลิกเชื่อไม่ได้ เขาก็ย่อมเป็นทุกข์เช่นกัน เพราะความทุกข์นั้นเกิดขึ้นในตัวของเขาเอง

ทุกคนมีเหตุปัจจัยแตกต่างกัน จึงย่อมมีความเห็นในแต่ละเรื่องแตกต่างกันไป

แต่ที่ยังคงเหมือนกันอยู่ก็คือ ....ยังคงทุกข์อยู่ ยังคงหาทางออกจากทุกข์กันอยู่

อยู่ที่ว่า ใครจะทุกข์มาก หรือทุกข์น้อยกว่ากันเท่านั้น

ทางโลกวัดกันที่ความรู้โลก ทางวัตถุ ทรัพย์สินเงินทอง ชื่อเสียงเกียรติยศ

ทาง ธรรม วัดกันที่ความรู้ทางธรรม หรือกฏธรรมชาติ วัดกันที่ความทุกข์ ใครยังทุกข์มากอยู่ ก็คือยังมีอุปาทาน การยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ 5 มากอยู่

ใคร ทุกข์น้อยลง ก็หมายความว่า มีการเบาบางจางคลายจากการยึดมั่นถือมั่นในอุปาทานขันธ์ 5 ในอัตตาตัวตน จึงเบาบางจากทุกข์ได้มากนั่นเอง

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

N.A.S.A. Images Of Alien Base On Moon

Re: APOLLO 20 ALIEN SPACESHIP ON THE MOON CSM FLYOVER 8

Ancient Structure On The Moon Filmed By Armstrong, 1969

Evidence from Apollo 11 about UFOs found on the Moon

Colonizing The Moon

Earth to space and back in 6 minutes

How Earth Sounds from Space

Jupiter sounds (so strange!) NASA-Voyager recording

Strange Image Captured By Mars Phoenix Lander

Ufo Brazil 2011